ในวงการโทรทัศน์ช่วงยุค 1980s โดยเฉพาะละคร/ซีรี่ย์ ของประเทศจีนในยุคนั้น ต้องบอกเลยว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก หลิวเซียะหัว และ ละครเรื่อง “ซูสีไทเฮา” (少女慈禧 The Young Dowager /1983) อย่างแน่นอนครับ
แอดมินจำได้ว่า ละครเรื่อง “ซูสีไทเฮา” เวอร์ชั่นนี้ ได้ถูกนำมาพากษ์ไทย และถูกนำออกฉายบนโทรทัศน์ช่อง 7 นับแต่นั้นมา แอดมิน ก็เริ่มสนใจประวัติศาสตร์ และติดตามภาพยนตร์หรือซีรี่ย์ เรื่อง ซูสีไทเฮา เรื่อยมา และวันนี้ แอดมิน ได้พบภาพนี้ โดยบังเอิญบนอินเตอร์เน็ต
ก็ทำให้ได้รำลึกถึง หลิว เสวี่ยหัว ซึ่งเธอได้เคยรับบท ซูสีไทเฮา มาก่อน
ก็เลยสืบค้นเรื่องราวต่างๆของเธอ จนได้นำมารวบรวมไว้ และได้หยิบยกข้อมูลประวัติอย่างย่อ ที่ถูกเรียบเรียงโดย เพจนักเขียน : เก้ากระบี่เดียวดาย จึงได้ถือโอกาส นำข้อความบางส่วนมานำเสนอไว้ในบล็อกนี้นะครับ
ก่อนอื่น ชมเพลงไตเติ้ลประกอบซีรีย์เรื่อง “ซูสีไทเฮา” (少女慈禧 The Young Dowager /1983) กันก่อนครับ เรียกความทรงจำกันเล็กน้อย ^^
โดย : เก้ากระบี่เดียวดาย
https://www.facebook.com/9independentswords/
หลิวเซียะหัว ( หลิว เสวี่ยหัว : Liu Hsueh-hua , 劉雪華 , Liú Xuěhuá ) เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1959 ที่กรุงปักกิ่ง ก่อนที่จะอพยพ ย้ายมาอยู่ที่ ฮ่องกง สำหรับก้าวแรกในการแสดงของเธอนั้น คือการแสดงภาพยนตร์ให้กับทาง Great Wall Movie Enterprise Limited ด้วยวัยเพียง 19 ปี โดยแสดงภาพยนตร์เรื่อง Young and Lovable (情不自禁 /1978) เป็นเรื่องแรก และเธอก็แสดงภาพยนตร์ให้กันกับทาง Great Wall อีกจำนวน 5 เรื่องจนหมดสัญญา
ในปี 1982 ทาง หลิวเซียะหัว ก็ได้เซ็นสัญญา เข้าสังกัด ชอว์ บราเดอร์ และได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Hell Has No Boundary (1982) ประกบกันกับเอ๋อตงเซิน
นอกจากแสดงภาพยนตร์ให้กันกับ ชอว์ บราเดอร์ แล้ว หลิวเซียะหัวก็ยังแสดงละครโทรทัศน์ให้กับทีวีบี ด้วย ในเรื่อง เทพบุตรนักสู้ แต่กระนั้นชื่อเสียงของเธอก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักโด่งดังเท่าที่ควร…
ในยุคสมัยนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่า นักแสดงที่ย้ายจาก ทีวีบีไปอยู่กับเอทีวี แล้วจะโด่งดังได้ เนื่องเพราะในช่วงเวลานั้น ทางทีวีบีกำลังประสบความสำเร็จจนถึงขีดสุด จาก ละครโทรทัศน์ชุด มังกรหยก ทั้งสองภาค ในปี 1983 และความร้อนแรงของเหล่านักแสดงรุ่นใหม่ อย่าง 5 พยัคฆ์ทีวีบี และ บรรดา ดรุณีหยกยุค 80s เรตติ้งผู้ชมของเอทีวียังเทียบไม่ได้เลยกับรายการดาราธรรมดาของทีวีบี
ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีดาราของทีวีบีคนไหนที่ยอมทุบหม้อข้าวตนเอง ย้ายไปอยู่เอทีวีแน่นอน แม้จะหมดสัญญากับทางทีวีบีก็ตาม ดาราหลายคนล้วนขอต่อสัญญากับทีวีบีทั้งสิ้น ยกเว้นเพียง หลิวเซียะหัว
ในช่วงเวลานั้นเอง ทางเอทีวี เสมือนถูกมัดมัดเท้าไว้ บรรดาลิขสิทธิ์นวนิยายกำลังภายในของทั้งโกวเล้ง กิมย้ง เนี่ยอู้เซ็ง ต่างอยู่กับชอว์ บราเดอร์ และ ทีวีบีหมดสิ้น การหวังจะให้เกิดปรากฏการณ์อย่างกระบี่ไร้เทียมทาน ที่เขียนโดย อึงเอ็ง ก็ดูริบหรี่ยิ่ง แต่แล้วทางเอทีวีเองก็ใช่ว่าจะสิ้นไร้ไม้ตอกเสียทีเดียว เนื่องเพราะในปี 1983 ทางเอทีวี ก็มีความคิดที่ต้องการสร้าง ละครอิงประวัติศาสตร์ เพื่อมาสู้กันกับ ละครกำลังภายในของทีวีบีแทน โดยมีหัวหอก คือละครเรื่อง ซูสีไทเฮา (少女慈禧 The Young Dowager /1983) และมอบบทบาท ซูสีไทเฮาให้กันกับ หลิวเซียะหัว
ซูสีไทเฮา ได้ออกอากาศในตอนแรก วันที่ 13 ธันวาคม 1983 จำนวน 30 ตอน ซึ่งเมื่อออกอากาส ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทั้งในฮ่องกง และทุกประเทศที่ออกฉาย ส่งชื่อให้ หลิวเซียะหัว ขึ้นแท่นนักแสดงสาวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีนั้น …. จากความสำเร็จของ ซูสีไทเฮา นั้น เอทีวีจึงรีบสร้าง บูเชคเทียน (Empress Wu /1984) ขึ้นมาต่อยอดความสำเร็จของซูสีไทเฮา ทันที และเป็น ฝงเป๋าเป่า ดาราสาวเจ้าบทบาท ที่แสดงเป็นอู่หม่ยเหนียงตั้งแต่วัยสาว จนก้าวสู่การเป็นจักรพรรดินีบูเช็กเทียน ได้ประสบความสำเร็จไม่แพ้กับ หลิวเซียะหัว เลย … จากความสำเร็จของ ละครเรื่องซูสีไทเฮา หลายคนต่างมาดหมายว่า หลิวเซียะหัว จะต้องต่อยอดความสำเร็จนั้นในฮ่องกง แน่นอน เพียงแต่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์เท่านั้น … แต่กลับเป็นว่า หลิวเซียะหัว ได้ย้ายตนเองไปไต้หวันและไปรับงานละครที่นั่น
*ฉงเหยา ( นักเขียนนวนิยายแนวรักโรแมนติก ที่ได้รับความนิยมทั้งในไต้หวัน ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่) นั้นมีความประทับใจในตัว หลิวเซียะหัว ตั้งแต่เธอแสดงในละครโทรทัศน์เรื่อง ซูสีไทเฮา การได้หลิวเซียะหัวมาแสดงละครเรื่อง Lovers Under the Rain(1986) ที่สร้างจากงานประพันธ์ของเธอ และประสบความสำเร็จเมื่อออกฉาย ทำเรตติ้งสูงกว่า 42% ของยอดผู้ชมไต้หวันทั้งประเทศ !!! ยิ่งทำให้ฉงเหยา รักใคร่เอ็นดูหลิวเซียะหัว ยิ่งขึ้น ถึงขนาดซื้อบ้านพร้อมชุดเครื่องนอนให้เธอพร้อมพักอาศัย ในไต้หวัน …
นับแต่นั้นมา … หลิวเซียะหัวก็ผูกขาดเป็นนางเอกขาประจำอีกคนของ ฉงเหยา
ในปี 1993 ชื่อของหลิวเซียะหัว โด่งดังอีกครั้งจาก ละครชุด เปาบุ้นจิ้น ของไต้หวัน ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วเอเชีย ซึ่งตอนที่หลิวเซียะหัวแสดงคือ ตอน ราชบุตรเขยจอมโหด ชิวเหนียง สะใภ้ยอดกตัญญู และแม่ทัพแดนเถื่อน ล้วนเป็นตอนที่มีผู้ติดตามสูงอันดับต้นๆทั้งสิ้น …
มีครั้งหนึ่งในการถ่ายละคร “Strong Woman” หลิวเซียะหัว ได้พบกับเด็กสาววัยเพียง 15 ปี ชื่อ ฟ่านปิงปิง ที่มารับบทเป็นตัวประกอบ ในวันนั้นฟ่านปิงปิงนั่งอยู่บันไดขั้นบนสุด เพื่อรอการถ่ายทำ หลิวเซียะหัว เดินผ่านมา เห็นเธอ จึงหยุดมอง เห็น ตากลมโต ผมดำขลับของเด็กสาว แล้วก็ขอรูปถ่ายและกขอที่อยู่ของเธอ เก็บไว้ แล้วบอกกับเด็กสาวฟ่านปิงปิง ว่า เธอมีลักษณะนางเอกของฉงเหยา ฉันจะแนะนำเธอให้กับฉงเหยาเมื่อมีโอกาส
ไม่นานนัก โอกาสนั้นก็มาถึง
เมื่อมีการถ่ายทำ Princess Pearl หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ องค์หญิงกำมะลอ นั้น ทางฉงเหยาไว้วางใจให้ หลิวเซียะหัว คัดเลือกนักแสดงจากทั่วประเทศ เพื่อมารับบทต่างๆ และก็เป็นหลิวเซียะหัว ที่เลือก ฟ่านปิงปิง มารับบท “จินสั่ว” สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ของ “จื่อเวย” จนทำให้ชื่อฟ่านปิงปิงเป็นรู้จัก นับแต่บัดนั้นมา ….
ชีวิตส่วนตัวของ หลิวเซียะหัว
เธอได้รู้จักกับ เติ้งอวี้คุน ผู้อำนวยการสร้าง และมือเขียนบทในละครโทรทัศน์ ในปี 1989 เติ้งอวี้คุณ ตกหลุมรัก หลิวเซียะหัวมาตั้งแต่แรกพบ แม้ว่าฝ่ายชายจะมีอายุมากกว่าถึง 13 ปีก็ตาม ทั้งคู่ก็แต่งงานกันในปี 1999 หลังจากนั้นจึงขายบ้านในไต้หวัน และฮ่องกง เพื่อย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่เซียงไฮ้ และใช้ชีวิตร่วมกันมา 12 ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง หลิวเซียะหัว กลับบ้านมาพบสามีนอนดูโทรทัศน์อยู่ เธอจึงขึ้นห้องนอนไปนอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังจนสะดุ้งตื่น ก็พบว่าสามีไม่ได้นอนอยู่บนเตียง เมื่อค้นหาสามีไม่พบเธอ จึงแจ้งเพื่อนสนิท ภายหลังกลับพบศพของ เติ้งอวี้คุณ อยู่บริเวณพื้นบ้านด้านล่าง ตำรวจสันนิษฐานว่า ทางตัวเติ้งอวี้คุณ น่าจะพยายามปรับสัญญาณโทรทัศน์ด้วยตนเองในห้องใต้หลังคา และพลาดตกลงมาจากชั้น 3
หลังจากการสูญเสียสามี หลิวเซียะหัวก็ยังคงครองตัวเป็นโสดมาถึงปัจจุบัน ด้วยวัย 61 ปี หลิวเซียะยังคงมีผลงานการแสดงให้เห็นอยู่สม่ำเสมอ
ข้อมูลเพิ่มเติม และอ้างอิง
- “ฉงเหยา” (瓊瑤) หรือฉวนเหยา คือใคร ?
ฉงเหยา เป็นนักเขียนนวนิยายแนวรักโรแมนติก ที่ได้รับความนิยมทั้งในไต้หวัน ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ความยิ่งใหญ่ในนวนิยายของฉงเหยา นั้นถูกสร้างมาเป็นภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ตั้งแต่ยุค 70s ทั้ง มนต์รักม่านไข่มุก (一簾幽夢) นางนวลรวนรัก (海鷗飛處) รักในม่านเมฆ (我是一片云) ไฉ่หวินเฟย 彩云飞 (เมฆหลากสีลอย) โอ้ ยอดรัก ( 彩雲飛 ) พันธะหัวใจ (心有千千結) มนต์รักในสายฝน (情深深雨蒙蒙) องค์หญิงกำมะลอ (還珠格格) และละครชุด “Three Plum Blossoms” หรือ ตำนานรักดอกเหมย
- อยากดูหนังที่เกี่ยวกับ ซูสีไทเฮา โดยเฉพาะ http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/06/A5479082/A5479082.html
- อ้างอิงข้อมูลโดย เก้ากระบี่เดียวดาย
https://www.facebook.com/9independentswords/posts/874338856477813/ - “หลิวเสวี่ยหัว” สุดเศร้าสามีดิ่งตึกเสียชีวิต – ปิดฉากคู่รักจากหนังชุด “เปาบุ้นจิ้น”
https://mgronline.com/entertainment/detail/9540000082787 - หลิว เสวี่ยหัว | จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A7_%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7
- ซูสีไทเฮา | จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%B2
- ไจ้เฟิง และ โย่วหลาน คือพ่อและแม่ ของจักรพรรดิปูยี (อั้ยชิง เจี่ยวหรอ ฟู่อี้ )
https://www.bagindesign.com/pu-yi-emperor/
เกี่ยวกับ ซูสีไทเฮา