อยากทำกระเป๋าหนัง เป็นแบรนด์ของตัวเอง
ต้องเริ่มอย่างไร ?
ขออารัมภบท สักนิดนึง เนื่องจากแอดมิน 9Genuine craftsman รับผลิตกระเป๋าหนังแท้ และเครื่องหนัง มาต่อเนื่องและยาวนาน และแน่นอน ด้วยจำนวนนโยบายขั้นต่ำการสั่งผลิตของเรา ที่ต่ำมาก เพียง 30 ใบต่อแบบ เท่านั้น จึงทำให้มีผู้สนใจที่ อยากทำกระเป๋าหนังแท้ เป็นแบรนด์ของตัวเอง มากขึ้น ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา
จากประสบการณ์หลายปี ที่ผ่านมา ผมได้สัมผัส และพูดคุยกับ ว่าที่ “ผู้ประกอบการรายใหม่” อยู่บ่อยๆ ทำให้แอดมินต้องลุกขึ้นมาเขียนบทความนี้ขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มคิด และหาข้อมูล ซึ่งผมคาดหวังว่า บทความนี้ จะสามารถสร้างความเข้าใจ ในขั้นตอนการทำงาน และทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น และเป็นประโยชน์ ไม่มากก็น้อย
เริ่มกันเลยนะครับ …
ก่อนอื่นเลย ก่อนที่เราจะลุกขึ้นมากทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ย่อมจะต้องเกิดจากความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ หรือบริการนั้นๆ เป็นพื้นฐานเสียก่อน และพัฒนาไปสู่การต่อยอดค้นคว้าหาข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำมาพิจารณาความเป็นไปได้ของธุรกิจของเรา ถูกต้อง มั้ยครับ ? ดังนั้น การที่ใครสักคน บอกว่า “ฉันอยากจะ สร้างแบรนด์กระเป๋า เป็นของตนเอง” นั่นแสดงว่า ใครคนนั้น กำลัง “สนอก สนใจ” และชื่นชอบกระเป๋า เป็นพื้นฐาน หรืออาจจะมีแบบนวัตกรรมกระเป๋าที่น่าสนใจอยู่ในจินตนาการ
เริ่มทำไรก่อนดี ในลำดับแรก
“สิ่งทีแรกไม่ใช่การหาโรงงานผลิตกระเป๋า ครับ แต่สิ่งแรกที่คุณไม่ควรมองข้ามเลย นั่นก็คือ การเริ่มค้นหาข้อมูล ของตัวเราเองเสียก่อน เช่น
1 > คุณจะทำกระเป๋าชนิดไหน ? >> กระเป๋ามีรูปแบบ ร้อยแปดพันเก้าแบบ ทั้งในด้านการใช้งาน และวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า เช่น หนังแท้ , หนังเทียม , ผ้า หรือวัสดุอื่นๆ ดังนั้น คุณต้องหาคำตอบตรงนี้ให้ได้ก่อน ว่าแบบกระเป๋าของแบรนด์คุณ จัดอยู่ในชนิดไหน
2> กลุ่มลูกค้าของคุณเป็นใคร ? >> ผมเคยตั้งคำถามนี้กับลูกค้าที่มาสั่งผลิต และได้รับคำตอบว่า กลุ่มลูกค้าของเค้าคือ ทุกๆคน !!! ผมตกใจมาก เพราะนั่นคุณจะต้องเหนื่อยแบบแสนสาหัส และต้องจ่ายเงินลงทุนแบบมหาศาลแน่ๆ เพื่อสามารถทำสินค้าให้ตรงใจตรงความต้องการกับคนทั้งโลก … ซึ่งเป็นไปไม่ได้
กลุ่มลูกค้ายิ่งแคบ จะยิ่งดี …. ครับ เหตุผลเพราะอะไร ข้อค้างไว้ก่อน จะอธิบายในตอนท้ายๆ ครับ
3 > ทำไมลูกค้าจะต้องซื้อสินค้าของคุณ ? >> เป็นคำถามง่ายๆ ที่ตอบยากมาก … สำหรับคนที่ยังไมได้วางแผนสร้างแบรนด์ตั้งแต่ต้น คือแบบนี้นะครับ การสร้างแบรนด์ของตัวเอง ไม่ใช่การมี โลโก้เท่ๆ 1 อัน และไปแปะบนผลิตภัณฑ์ ก็ถือว่าสร้างแบรนด์ได้แล้ว ซึ่งก็ถูกนะ แต่เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น … ความหมายของแบรนด์ มันมีมากมายกว่านั้นเยอะ การสร้างทำง่ายๆ ครับ แต่การจะให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้นั้น ยากสุดๆ ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมลูกค้าจะต้องซื้อสินค้าของคุณ ? มันก็คือแบรนด์ ในข้อ 3 และ 2 และ 1 ที่ผสมผสานกันลงตัว
จากประสบการณ์ของผมที่พบมา โดยส่วนใหญ่เลยนะครับ ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ มักจะละเลยกับข้อมูลสำคัญดังกล่าวข้างต้น ครับ ส่วนมากจะไปมุ่งเน้น เรื่องการค้นหา โรงงานผลิตกระเป๋า แล้วก็จดจ่ออยู่กับ ราคาต้นทุนต่อหน่วย ที่ต่ำ ๆปริมาณการผลิตน้อยๆ เพื่อจะได้ลดความเสี่ยงในการถือครองสต๊อก และได้ผลกำไรมากๆจากราคาขายสินค้าที่ต้นทุนต่ำ …. จริงๆแล้วมันก็มีส่วนถูกต้องอยู่นะครับ การทำธุรกิจย่อมต้องหวังผลกำไร แต่ก่อนจะได้กำไรตามที่หวังผล หากขาดการวางแผนงาน 3 ข้อจากที่กล่าวมาแล้ว เกรงว่าการทำธุรกิจของเราในอนาคตจะยากลำบากอยู่ไม่น้อย ครับ
จะไม่พูดเรื่องราคาต้นทุนของสินค้า ก็ไม่ได้ โอเคครับ มาว่ากันเลย การกำหนดราคาสินค้าขายปลีก ของแบรนด์ มันขึ้นอยู่กับ 3 ข้อ ข้างบนนั่นล่ะครับ หาคำตอบได้แล้ว ก็นำมาวิเคราะห์กันเลย
คุณจะทำกระเป๋าชนิดไหน ?
ประเภทการใช้งานของกระเป๋าคือ อะไร ? กระเป๋าแฟชั่นเก๋ๆ หรือกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือไปทำงาน ใส่เอกสาร notebook ดูเรียบร้อยเป็นทางการ หรือ กระเป๋าสะพายเท่ๆ ในวันหยุด ฯลฯ
วัสดุอะไรดีล่ะ ?
- หนังแท้ ไปเลย คุณภาพดีๆ อายุใช้งานนานๆ คุ้มค่า ….. หรือ …. หนังเทียม ก็ดี ไม่เลวนะ ราคาถูกๆ ซื้อง่ายขายคล่อง ชิลๆ ใครๆก็ชื้อได้ เอ๊ะ !!! หรือจะใช้ วัสดุผ้า … เผลอๆ ถูกกว่าหนังเทียมเสียอีก … กำไรงาม ….
ลูกค้าเป็นใคร ?
- หนุ่มสาว วัยเริ่มต้นทำงาน , นักเรียนนักศึกษา , คนทำงาน office ระดับกลางๆ ถึงผู้บริหาร กำลังซื้อ เป็นอย่างไร ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เป็นแบบไหน
ทำไมลูกค้าต้องซื้อกระเป๋าคุณ ?
- วัสดุดีงาม ใช้หนังแท้ ตัดเย็บประณีต ราคาสูงไปนิดแต่คุ้มค่า การออกแบบสวยงาม ประโยชน์ใช้สอยตรงความต้องการลูกค้า
หรือ … ราคาเร้าใจ เพราะใช้หนังเทียม วัสดุตามราคา ตัดเย็บตามราคา ซื้อง่ายดี เอาใจใส่ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า มีบริการหลังการขาย ที่ดี
ทั้ง 3 หัวข้อนี้ เกี่ยวข้องกันกับการตัดสินใจเลือกกำหนด Position ของแบรนด์คุณครับ ค้นหาคำตอบสำหรับตัวเองได้ครบถ้วน หรือมากที่สุดแล้ว คราวนี้ ก็มาพูดถึงเรื่องราคาต้นทุน และความเป็นไปได้ทางธุรกิจ กันครับ และ อีกข้อมูลหนึ่ง ที่ละเลยไม่ได้อีกข้อหลังจากนี้ คือ การทำสำรวจตลาด เมื่อคุณกำหนดจุดยืนของตัวเองแล้ว คราวนี้ ก็มาดูกันซิว่า แบรนด์ของคุณ จะไปอยู่ใน position ตรงไหน ? ใครเป็นคู่แข่งเราบ้าง คู่แข่งมีมากแค่ไหน อย่างไร … ราคาขายปลีกที่เค้าขายๆกัน อยู่ในระดับเท่าไหร่ …. ข้อนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า คุณจะไปต่อ หรือ จะกลับไปปรับเปลี่ยนตัวเองอีกเล็กน้อย เพื่อให้แข่งขันในตลาดได้
แบรนด์ของคุณ จะไปอยู่ใน position ตรงไหน ?
หากคุณเลือกตลาดที่มีการแข่งขันสูง ๆ
กระเป๋าแฟชั่นเก๋ๆ ทั่วไป , วัสดุหนังเทียม หรือผ้า ราคาถูก , กลุ่มเป้าหมาย เอาหมด พี่เบิร์ดรักทุกคน …
ขนาดของตลาดใหญ่มาก หากเปรียบตลาดเป็นพื้นที่ ตลาดนี้ ก็น่าจะเทียบเท่ากับทะเลในโซนน้ำลึก ที่กว้างใหญ่ มีปลาชุกชุม และแน่นอน มันจะมีเรือประมงชุกชมมากตามไปด้วย เจ้าของส่วนแบ่งตลาดแห่งนี้ (เจ้าถิ่น) คือเรือประมงขนาดใหญ่ ที่มีความพร้อมในเรื่องของเงินทุน, บุคคลากร และเครื่องไม้เครื่องมือ ที่ครบสรรพ หากคุณเลือกที่จะไปแข่งขันในตลาดนี้ ย่อมต้องในใช้สรรพกำลังที่มากหน่อยครับ ….
หากคุณเลือกตลาดที่มีการแข่งขันระดับกลางๆ ถึงต่ำ
กระเป๋าแฟชั่น หรือ กระเป๋าใช้สอยเฉพาะเจาะจง มีการออกแบบที่แตกต่าง , วัสดุหนังเท้ การตัดเย็บที่ประณีต ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ระดับราคากลางๆ ถึงสูงได้ กลุ่มเป้าหมาย ที่มีกำลังซื้อตามเหตุและผล มีไลฟ์สไตล์ที่มีความเป็นเฉพาะตัว
ขนาดของตลาดไม่ใหญ่มาก หากเปรียบเป็นพื้นที่ ตลาดนี้ ก็น่าจะเปรียบกับ ริมๆ เกาะแก่งในทะเล ที่ต้องเสาะหาสักหน่อย การแข่งขันมีไม่สูง เรือประมงขนาดใหญ่ไม่เข้ามาเพราะอาจไม่คุ้มทุนกับค่าใช้จ่ายที่จะเข้ามา หากคุณเจาะกลุ่มนี้ได้ คุณจะเป็นเจ้าถิ่นในพื้นที่แห่งนี้ …
มาสู่คำตอบของคำถามที่ว่า เพราะอะไร ? กลุ่มลูกค้ายิ่งแคบ จะยิ่งดี ….
คือตรงนี้ ครับ การที่มีกลุ่มลูกค้าที่แคบจะทำให้เราตอบสนองความต้องการได้ตรงจุดมากขึ้น ลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านสต๊อกสินค้า สร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นได้ กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ ไม่ง่ายทั้งในด้านการค้นหา และรักษาเอาไว้ครับ ทั้งหลายทั้งปวงจะต้องมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาประกอบร่วมด้วย
ทั้งนี้ ไม่ว่าคำตอบของคุณ จะเป็นเช่นไร จะเลือกตลาดที่กว้างใหญ่แข่งขันสูง หรือ ตลาดเล็กแคบๆ เฉพาะเจาะจง … ก็ตาม 2 ทางเลือกนี้ ไม่มีผิดมีถูก นะครับ
อย่ามองหา สิ่งที่ดีที่สุด
แต่จงมองหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา มากที่สุด
ขอจบบทความ “อยากทำกระเป๋าหนัง เป็นแบรนด์ของตัวเอง ต้องเริ่มอย่างไร” ไว้เพียงเท่านี้ ครับ แอดมินและทีมงาน 9Genuine หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านผู้อ่านน่าจะเริ่มเข้าใจ และพอจะค้นหาคำตอบให้ตนเอง ในการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ไม่มากก็น้อย
9Genuine Craftsman
รับผลิตกระเป๋าหนังแท้ เครื่องหนัง OEM Exclusive design สำหรับผู้ที่กำลังสร้างแบรนด์ เป็นของตนเอง
หนังสือสำหรับการ เรียนรู้การใช้งานเว็บไซด์ www หรือ บท platform social media ต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ LINE , TWITTER หรือการใช้ Google My Business ให้เป็นประโยชน์ สร้างยอดขาย และสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี
