“คนไทยใจสยาม ทางชีวิตยามสงครามและสันติภาพ” ไม่ใช่หนังสือเชิงวิชาการที่จะทำให้คุณผู้อ่านเกิดความตึงเครียดหรือน่าเบื่อ แต่หนังสือเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชาติไทย ผ่านชีวิตประวัติบุคคลสำคัญผู้ทำคุณประโยชน์ให้ชาติ
เกิดเป็นไทยแท้ หรือจะมีเชื้อสายอื่นใดก็ตาม แต่หากได้อาศัยร่มเงาภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังได้ทำมาหากิน มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขร่มเย็นบนแผ่นดินเอกราชชาติไทยที่ไม่ขึ้นตรงกับชาติใดแล้ว ย่อมควรตระหนักถึงคุณงามความดี การยึดมั่นในสำนึกและหน้าที่ของการเป็นคนไทยที่ดี เพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมไทยทั้งในวันนี้และวันหน้า
เรื่องราวและประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติไทย ได้บ่มเพาะบุคคลสำคัญ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับชาติมากมาย บางท่านถึงกับสละชีวิตเพื่อความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง บางท่านถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการกระทำย่ำยีต่อความรู้สึกของคนไทยอย่างไม่น่าให้อภัย ในขณะที่อีกหลายๆท่าน เรากลับไม่รู้จัก หรือ ไม่แม้แต่จะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขามาก่อนเลย ตราบจนกระทั่งเราได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของพวกเขาเหล่านั้น
“คนไทยใจสยาม ทางชีวิตยามสงครามและสันติภาพ”
ไม่ใช่หนังสือเชิงวิชาการที่จะทำให้คุณผู้อ่านเกิดความตึงเครียดหรือน่าเบื่อในการอ่าน แต่ในทางตรงกันข้าม หนังสือเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชาติไทยผ่านชีวิตประวัติบุคคลสำคัญผู้ทำคุณประโยชน์ให้ชาติ อีกทั้งสะท้อนแง่มุมความจริงของประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ดีเท่ากับผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือรู้จักเป็นการส่วนตัวเป็นผู้เล่าให้ฟัง
เรื่องราวในเล่มกล่าวถึงบุคคลสำคัญ ๑๒ ท่าน ที่การันตีได้ว่ามีทั้งบุคคลที่คุณผู้อ่านรู้จัก และอีกหลายท่านที่คุณไม่รู้จัก ?? แม้แต่บางท่านที่คุณรู้จัก คุณก็อาจจะยังรู้จักเขาไม่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็น คุณบุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ วีรบุรุษทางรถไฟสายมรณะ บุคคลธรรมดาสามัญ ผู้มีร้านขายยา “สิริโอสถ”ซึ่งตั้งอยู่บนถนนปากแพรก จ.กาญจนบุรี ผู้ซึ่งได้ทำคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ต่อมนุษยชาติ จากการช่วยเหลือเชลยสงครามให้รอดพ้นจากการถูกทรมานจนตายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เขายอมเสี่ยงชีวิตของเขารวมถึงลูกสาวเพื่อแสดงน้ำใจอันยิ่งใหญ่ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยไม่เกรงกลัวต่อภยันตรายใดๆ ที่จะเกิดกับครอบครัวของเขา จนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากรัฐบาลออสเตรเลีย อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ รวมถึงการได้รับการประดับยศเป็นพันโทบุญผ่อง แห่งกองทัพในประเทศอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ ยิ่งไปกว่านั้นคุณบุญผ่องยังได้รับเกียรติขั้นสูงสุดในการร่วมโต๊ะเสวยกับสมเด็จพระนางเจ้าอลิเซเบธที่ ๒ และพระสวามี เมื่อครั้งที่ทั้ง ๒ พระองค์เสด็จเยือนประเทศไทย ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕
คุณบุญผ่อง สิริเวชชะพันธุ์ เป็นหนึ่งในบุคคลตัวอย่าง ผู้มากไปด้วยความกล้าหาญในระดับที่นานาชาติยกย่องให้เกียรติ แต่คนไทยกลับไม่รู้จักเขา ไม่รู้แม้แต่ว่าเขาเป็นใคร จนกระทั่งมีสารคดียกย่องและเชิดชูคุณความดีที่เขากระทำและทิ้งไว้ให้คุณรุ่นหลังได้รำลึกถึง
หรือแม้แต่การต่อสู้ชีวิตของ นายเลิศ เศรษฐบุตร หรือ พระยาภักดีนรเศรษฐ ก็เป็นเรื่องราวที่น่าอ่าน และยังเป็นบุคคลต้นแบบของความเป็นเลิศทั้งปวง จนท่านได้ฉายาว่า “เลิดสะมันเตา” ซึ่งมีความหมายว่า วิเศษสุด หากจะทำกิจการงานใดก็แล้วแต่ต้องทำให้ได้อย่างนายเลิศ เพราะสำหรับนายเลิศแล้ว ไม่มีมีอะไร “เป็นไปไม่ได้” นายเลิศสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมากมายด้วยการพึ่งพาตนเอง จากธุรกิจที่เจ๊งถึงขั้นล้มละลาย กลายมาเป็นระดับมหาเศรษฐีอีกครั้งอย่างไม่ยากเกินความสามารถและความพยายามของท่านเอง ท่านเกิดมาผิดยุคผิดสมัย แต่การเกิดผิดสมัยของนายเลิศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และนำมาซึ่งความเจริญของประเทศชาติเช่นทุกวันนี้
นายเลิศ เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจมากมาย โดยเริ่มจากการสร้างระบบขนส่งมวลชน ด้วยการให้บริการรถเมล์ขาว เรือเมล์ขาว แก่ประชาชนในยุคนั้น นายเลิศสนใจแต่ความถูกต้อง ไม่สนใจในอำนาจหรือความมักใหญ่ใฝ่สูง แม้ว่าท่านจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีธุรกิจขนาดใหญ่อย่างโรงแรมปาร์คนายเลิศ เจ้าของโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย แต่ท่านก็ยังใช้ชีวิตสมถะ รักการปลูกต้นไม้ ชอบชีวิตเรียบง่าย แต่งตัวง่ายๆ มีวิธีคิดและการใช้ชีวิตที่น่าสนใจยิ่ง ชีวิตของนายเลิศเป็นบุคคลต้นแบบความสำเร็จที่ควรนำมาเป็นแบบอย่าง แม้แต่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ยังอดชื่นชมในความสามารถและความเป็นตัวตนของนายเลิศเสียไม่ได้ ซึ่งตัวท่านเอง ก็เป็นอีกบุคคลสำคัญ ๑ ใน ๑๒ ท่านที่น่ายกย่องและเชิดชูในวีรกรรมอันกล้าหาญ
จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นบุคคลที่ฉลาด และสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์
ด้วยไหวพริบและปัญญาของท่าน แม้ว่าเรื่องราวของท่านในบางมุม อาจจะเป็นภาพลบ
แต่สำหรับเรื่องราวของท่านในเล่มนี้ … เมื่ออ่านแล้วจะทำให้รู้จักชายชาติทหาร
นามว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม มากยิ่งขึ้น
จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในวาระยาวนานที่สุดของประเทศไทย ท่านผู้นำที่นำแนวคิดรัฐนิยมมาใช้ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมค่านิยมใหม่ๆ ให้เกิดกับสังคมไทย สร้างความเจริญให้ทัดเทียมได้กับนานาอารยประเทศ รณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าไทย จนทำให้เกิดคำขวัญติดหูติดปากคนทั้งชาติที่ว่า “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ”
จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นบุคคลที่ฉลาด และสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ ด้วยไหวพริบและปัญญาของท่าน แม้ว่าเรื่องราวของท่านในบางมุม อาจจะเป็นภาพลบ แต่สำหรับเรื่องราวของท่านในเล่มนี้ เมื่ออ่านแล้วจะทำให้รู้จักชายชาติทหารนามว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม มากยิ่งขึ้น เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ใครๆ ก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นผู้ที่คอยปกป้องและคุ้มกันทรัพย์สมบัติของชาติด้วยชีวิต ไม่ว่าจะเป็นองค์พระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ทรัพย์สมบัติของชาติมากมายหลายชิ้น หรือแม้แต่พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้รอดพ้นจากภัยสงคราม จอมพล ป.พิบูลสงครามปกป้องสมบัติของชาติทุกชิ้นเท่าชีวิต และท่านก็สามารถรักษาทรัพย์สมบัติได้รอดปลอดภัยเช่นกัน เป็นวีรกรรมอันกล้าหาญที่ใครๆ ไม่เคยลืมเลือน วีรชนไทยทั้ง ๓ ท่าน เป็นเพียงตัวอย่างน้ำจิ้ม อีก ๙ ท่านที่เหลือ คือ เรื่องราวที่คนไทยหลายๆ คนไม่เคยรับรู้มาก่อน
เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสอดแทรกถึงคุณธรรม จริยธรรม ความรักและเทิดทูน ความกล้าหาญ ความเป็นอยู่หรือตายในช่วงภาวะสงคราม การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพทางความคิดและการใช้ชีวิต บุคคลทั้ง ๑๒ ท่านในเล่มนี้ นับเป็นวีรชนไทยที่สมควรได้รับการยกย่อง เชิดชู และไม่ควรถูกลบไปจากความทรงจำของคนไทย
เนื้อหาภายในเล่ม อ่านง่าย คุณสภา ปาลเสถียร และคุณปริสนา บุญสินสุข เรียบเรียงและบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ เฉกเช่นว่าทุกเรื่องราวพึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง
“คนไทยใจสยาม ทางชีวิตยามสงคราม และสันติภาพ” มี ๒ ภาษา คือ ฉบับภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย เป็นหนังสือที่ควรมีติดไว้เป็นยาสามัญประจำใจของบ้าน อ่านเพื่อให้เกิดสำนึกรักและภาคภูมิใจในแผ่นดินถิ่นเกิด ได้ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ นอกจากนี้ชีวประวัติของวีรชนไทยทั้ง ๑๒ ท่าน ยังเป็นแรงบันดาลใจที่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้จิตวิญญาณของไทยทุกดวงให้ก้าวข้ามความอ่อนล้า และอุปสรรคทุกรูปแบบ นอกเหนือสิ่งอื่นใด คือ การหล่อหลอมจิต สำนึก และให้รับรู้ว่าคนไทยใจสยามยังมีอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เราในฐานะที่เป็นคนไทย ควรพึงที่จะรับรู้ เรียนรู้และขวนขวายเรื่องราวของความเป็นไทยให้มากขึ้นหรือไม่ คุณเท่านั้นที่จะทราบ “คำตอบ”
–ประวัติศาสตร์ของการเกิดเป็นมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนจากโลกนี้ไป มีช่วงเวลามากมายที่น่าจดจำ ความทรงจำของคนเราสามารถบันทึกเรื่องราวได้ทุกรูปแบบ แต่อยู่ที่ว่าเราเลือกจะบันทึกความทรงจำแบบใดให้ฝังอยู่ในใจและความคิดของเราตลอดไป–
Reference: Wikipedia www.im-mag.com www.djibnet.com www.sarakadee.com
หนังสือ วีรบุรุษสงครามทางรถไฟสายมรณะ: นายบุญผ่องสิริเวชชพันธ์
Cultures of Fermented
by Scoby Doit
Related