หากคุณคือนักอ่าน ไม่ว่าจะเป็น นักอ่านรุ่นใหม่ หรือเป็นนักอ่านรุ่นเก่า ถ้าคุณได้ยินใครสักคน เอ่ยคำว่า “OSHO” แอดมิน Thai Book เชื่อว่า น้อยคนนัก ที่จะไม่รู้จัก OSHO แต่ในขณะเดียวกัน แอดก็เชื่ออีกข้อหนึ่งว่า ยังมีอีกหลายคนไม่น้อย อาจไม่ทราบว่า OSHO คือชื่อ บุคคล … ซึ่งบางคนอาจเข้าใจว่าเป็นชื่อหนังสือ
… ใช่ครับ OSHO (โอโช) คือชื่อของบุคคล
อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าไม่มีคำถามต่ออีกว่า OSHO (โอโช) คือใคร ? ก็จะแปลกไปสำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า OSHO คือชื่อบุคคล และ ก่อนที่เราจะไปกล่าวถึงหนังสือ พจนานุกรมชีวิต ตื่น-รู้-แจ้ง และความคิดของโอโช ( The ABC of Enlightenment ) ก็อาจจะมีคำถาม แอดมิน Thai Book ขอสกัดประวัติ อย่างย่นย่อของ โอโช ไว้แบบคร่าวๆ นะครับ
่ โอโช ( OSHO ) คือ บุรุษชาวอินเดีย ท่านหนึ่ง ที่ถือได้ว่า เป็นนักปรัชญาร่วมสมัย เป็นผู้เผยแพร่คำสอนในประเทศอินเดีย ในช่วงปี ค.ศ. 1981-1990
โอโช ไม่ได้มีเชื่อเสียงเฉพาะในประเทศอินเดียเท่านั้น … แต่เขายังได้โด่งดังไปถึงอเมริการ และยุโรปอีกด้วย เขายังได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทม์ ( ลอนดอน ) ว่าเป็น หนึ่งใน “1,000 บุคคลสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20” จนถึงขนาดที่ว่า คำสอนของ โอโช คือทางเลือกสายใหม่ สำหรับคนที่ไม่มีศาสนาบางกลุ่ม ที่เคยผิดหวังกับบางศาสนา กันเลยทีเดียว …
จนกระทั่ง Tom Robbins นักประพันธ์ชาวอเมริกัน ได้รับการขนานนามว่า “โอโช” เป็น “บุรุษสุดอันตรายหลังจากการมาของพระเยซู” !!! อาจจะด้วย คำสอนและวิถีปฏิบัติ ของเขา ที่ค่อนข้างผิดแผก และแตกต่างจากศาสดาของศาสนาหลักๆ ในโลกนี้ อย่างเช่น ฮินดู , เต๋า , พุทธ และคริสต์….
เหตุนี้เองที่ทำให้เขา ถูกเรียกว่า เป็นนักคิดคนสำคัญที่กล้ารื้อถอนโครงสร้างของศาสนา และให้ความสำคัญกับการ “เปิดจิตเพื่อรับรู้ถึงสิ่งที่ถูกกดทับอยู่ภายใน ….
และมาถึง เรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงนี้นะครับ เป็นเล่มล่าสุดในปี 2023 นี้ คือ
หนังสือ OSHO ตื่น-รู้-แจ้ง ( The ABC of Enlightenment )
แปลโดย : คุณกำธร เก่งสกุล จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์แสงดาว
หนังสือเรื่อง ตื่น-รู้-แจ้ง OSHO เล่มนี้ เปรียบได้เป็น “พจนานุกรม” สำหรับผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกมิติ จังหวะของชีวิต ในทุกๆคนได้ เป็นหนังสือ รวมซีรีส์ แนวคิดของ OSHO ที่ครอบคลุมแทบทุกๆ ด้าน จากความคิดที่กระจัดกระจายอยู่ในหนังสือเล่มต่างๆ ที่เขียนขึ้นตามคำบรรยายของโอโช ….ได้ถูกนำมา “ประมวลรวมไว้” โดยถูกแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามตัวอักษรตั้งแต่ A-Z อยู่ในหนังสือ เล่มนี้ …มันเป็นโอกาสอันดีของผู้อ่านครับ ที่ต้องการศึกษางานของมหาปราชญ์แห่งอินเดียผู้นี้ แบบเบ็ดเสร็จในเล่มเดียว และสามารถใช้เป็นเข็มทิศต่อยอด หาอ่านในเล่มเฉพาะเจาะจง
แอดมินขอหยิบยก บางส่วนจากหนังสือ ตัวอย่างเช่น
| Jealousy • ความอิจฉา
ความอิจฉาคือ การเปรียบเทียบ
….เราถูกสอนมาให้เปรียบเทียบ เราถูกสร้างเงื่อนไข มาให้เปรียบเทียบ ….และเปรียบเทียบอยู่เสมอ
- คนอื่นมีบ้านที่ดีกว่า….
- คนอื่นมีร่างกายที่งดงามกว่า…
- คนอื่นมีเงินมากกว่า ….
- คนอื่นมีบุคลิกภาพที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่า ….
…… การเปรียบเทียบดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ….โดยเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นที่เราเดินผ่าน เมื่อเปรียบเทียบไปได้นานและมากพอแล้ว …..
“ความอิจฉาที่มีมากมายจะเป็นผลตามมา นั่นคือ ผลจากการสร้างเงื่อนไขให้เปรียบเทียบ…”
การเปรียบเทียบเป็นทัศนคติที่โง่เขลามาก เพราะ …. แต่ละคนมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว และไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ …. ทันทีที่ความเข้าใจเช่นนี้ มั่นคงอยู่ในใจเรา ความอิจฉาจะหมดไป แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่อาจเปรียบเทียบกันได้ เราเป็นตัวเราเองอย่างแท้จริงโดยไม่เคยมีใครเหมือนเรา และไม่มีวันที่จะมีใครเหมือนเราได้ แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนใครด้วยเช่นกัน…
| Advertising · การโฆษณา
“การโฆษณา เป็นเพียงแค่โน้มน้าว โดยไม่เคยอ้างเหตุผล…. “
นักโฆษณา…. เชื่อในศาสตร์แห่งการย้ำซ้ำๆ เขาเพียงแค่บอกซ้ำไปเรื่อยๆ ว่าบุหรี่ ยี่ห้อนี้ดีที่สุด …เมื่ออ่านครั้งแรก เราอาจยังไม่เชื่อ … แต่ครั้งต่อไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ….. เราจะยัง คงเป็นผู้ที่ไม่เชื่ออยู่ได้นานแค่ไหน ?
ความเชื่อจะค่อยๆ เกิดขึ้นทีละน้อยๆ และความเชื่อจะมีเพิ่มมากจนเราอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ … มันจะเป็นสิ่งซ่อนเร้นที่อยู่ใต้จิตสำนึก เท่านั้น ….
ฉับพลันวันหนึ่ง เมื่อเราไปร้านค้า แล้วคนขายถามถึงยี่ห้อบุหรี่ที่เราต้องการ …เราจะพูด ถึงบางยี่ห้อที่อยู่ในใจออกมา …
นั่นคือผลของการย้ำซ้ำๆ มันทำงานได้ผล
มันสะกดจิตเรา นั่นคือลักษณะที่ศาสนาต่างๆ มีบทบาทอยู่ในโลก รวมถึงการเมืองทั้งหมด ก็ขึ้นกับสิ่งเดียวกันนั้นด้วย การโฆษณาบอกซ้ำซาก ต่อสาธารณชน โดยไม่ต้องใส่ใจว่า จะมีใครเชื่อหรือไม่ เพราะนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
” ฮิตเลอร์กล่าวไว้ว่า …. มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียว ระหว่างความจริงกับเรื่องโกหก นั่นก็คือ . ความจริงคือเรื่องโกหกที่พูดซ้ำๆ ซากๆ ให้ฟังบ่อยมาก แล้วคนเราสามารถเชื่อเรื่องโกหกใดๆ ก็ได้ … การถูกหลอกง่าย ของมนุษย์นั้น ไร้ขอบเขต คนเราอาจเชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ เทวดา นางฟ้า ภูตผีปีศาจ และเชื่ออะไรได้ทุกอย่าง ! แค่พูด ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ แล้วไม่มีความจำเป็นต้องอ้างเหตุผล …..
การโฆษณาไม่เคยอ้างเหตุผล…. เราเคยเฝ้าสังเกตดูข้อเท็จจริงด้วยหรือ ? ไม่มีความจำเป็นต้องอ้างเหตุผล การโฆษณาเพียแค่โน้มน้าวโดยไม่เคยอ้างเหตุผล … ผู้ที่อ้างเหตุผล อาจไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ !!?? … แต่คนที่ชักจูง ซึ่งแค่พูดแนะนำอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนกับเรา ไม่ใช่การอ้างเหตุผลตรงๆ เพราะเมื่อใครก็ตาม อ้างเหตุผลกับเรา เราอาจจะเริ่มต่อต้าน … แต่ถ้าใครก็ตาม “แค่พูด” เป็นนัยถึงสิ่งบางอย่างไปเรื่อยๆ … โดยไม่ได้บอกตรงๆ … แค่การสมมุติ … เราก็มีแนวโน้มที่ จะเชื่อมากกว่า
ครับ … และนี่ก็เป็นเพียงบางส่วนที่แอดมินหยิบยกขึ้นมาเท่านั้น
สำหรับคนที่เคยได้อ่านผลงานของ OSHO มาแล้ว แอดมินเชื่อว่า บางคนอาจจะรู้สึกว่า แนวความคิดบางอย่างโอโช จะมีความสุดโต่ง , บางเรื่องก็มีความก้าวร้าว หรือบางคราวก็แทบจะรับไม่ไหว … ในส่วนที่รับไม่ไหว แนะนำให้ทิ้งไปครับ อย่าใส่ใจ… คุณควรใช้วิจารณญาณในการเสพงานของโอโช ครับ
แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ โอโชไม่เคยโน้มน้าวให้ใครเชื่อตามแนวคิดของท่าน แต่โอโชเน้นย้ำมาตลอดว่า ให้เชื่อและมีความคิดในตนเอง … อย่าเชื่ออะไรโดยที่ตัวเองยังไม่มีประสบการณ์ อย่าเชื่อว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้เลว ตามที่ใครๆบอก ดีหรือเลว แต่ให้ตัดสินด้วยประสบการณ์ของตัวเองแล้ว จึงค่อยเชื่อ …
หนังสือ OSHO ตื่น-รู้-แจ้ง
พจนานุกรมชีวิต และความคิดของโอโช
ผู้เขียน : OSHO
ผู้แปล: กำธร เก่งสกุล
สำนักพิมพ์: แสงดาว
จำนวนหน้า: 664 หน้า | ปกอ่อน
พิมพ์ครั้งที่: 1 — ปี 2566
รหัสสินค้า: 9786163886033
หมวดหมู่: การพัฒนาตนเอง
คุณสามารถสั่งซื้อ ทางออนไลน์ได้
หนังสือผลงานของ OSHO 15 เล่ม