หลังจากที่ได้ รีวิว ลายกินรี และ ลายเหมราช ซีรีส์ชุด “นักสืบสตรีศรีอยุธยา” ไปแล้วพอสังเขป มาถึงเล่มสุดท้าย แต่เป็นภาคแรกของซีรีส์ชุดนี้กันค่ะ “ลายราชสีห์”
เรื่องราว ในนวนิยาย “ลายราชสีห์” เล่มนี้ สนุกมากมายค่ะ ขอบอกเลย หากจำเป็นต้องเลือกว่า ตอนใดใน ซีรีส์ชุด “นักสืบสตรีศรีอยุธยา” ที่ชอบที่สุด โดยส่วนตัวแอดมินยกให้ “ลายราชสีห์” เป็นเบอร์หนึ่งเลยค่ะ คดีมีความซับซ้อน และได้อรรถรสทั้งความบันเทิงและ เกร็ดสาระความรู้ทางประวัติศาสตร์ เช่นเคย โดยเนื้อหาในนวนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวรุ่นพ่อและแม่ของ พุดซ้อน และออกหลวงอินทราชภักดี หากจะให้แนะนำลำดับการอ่าน อยากให้เริ่มอ่านจาก ลายราชสีห์ ก่อน ก็จะทำให้เห็นเรื่องราวความเป็นไปของตัวละครที่สำคัญ เช่น คุณหญิงแสร์, เจ้าจอมสารภี , หมอโหมด, แม่เฮง , แม่พิกุล ว่าแต่ละตัวละครได้มา เกี่ยวข้อง เกี่ยวพันกันได้อย่างไร ซึ่งแน่นอนค่ะว่า โครงเรื่อง ยังคงเกี่ยวข้องกับการ ไขปมคดีปริศนาฆาตกรรม โดยมี ผ้าลายอย่าง เป็นหลักฐานที่สำคัญที่จะสาวไปถึงตัวฆาตกร
เป็นนวนิยายที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับปีที่ ๒๕ ของรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ราวปีพุทธศักราช ๒๑๙๗
คดีฆาตกรรม ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีความน่าสนใจ เนื่องเพราะเกิดภายในราชสำนักฝ่ายใน พระราชวังหลวง ที่บอกว่าน่าสนใจนั้น คือ ไม่ได้เกิดกับขุนนางทั่วไป แต่เกิดกับ เจ้าจอมดอกแก้ว ที่จู่ๆ ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง และกระโดดลงมาจากตึก จนถึงแก่ชีวิต !!! โดยในมือยังกำ ผ้าลายราชสีห์ อยู่ จึงเป็นที่มา และเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ ของการสืบค้นหา ฆาตกรตัวจริง โดย แสร์ , สารภี รวมถึง หมอโหมด (พ่อของพุดซ้อน)
แสร์ และสารภี เป็นนางข้าหลวงในตำหนักของพระราชเทวี จึงรู้เรื่องราวต่างๆ ภายในวังเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ พ่อไชย ( ออกหลวงวิไชยราชกิจ ) ซึ่งรับราชการอยู่กรมวัง กรมพระกลาโหม ทั้งแสร์และพ่อไชย มีความรักและความรู้สึกที่ดีต่อกัน ด้วยสนิทสนมกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งแสร์และสารภีต้องทำหน้าที่เป็นนับสืบ เพราะการเสียชีวิตของเจ้าจอมดอกแก้ว โดยในมือกำผ้าลายราชสีห์ไว้ ย่อมไม่ธรรมดา อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับขุนนางในราชสำนัก หากเป็นไปอย่างที่ แสร์และสารภี คาดเดาเอาไว้ ก็น่าจะเป็น ขุนนางระดับออกหลวง สังกัดกรมพระตำรวจ หรือ กรมพระกลาโหมขึ้นไปอย่างแน่นอน เนื่องจากว่า ผ้าลายอย่างลายราชสีห์ จะพระราชทานให้กับขุนนางในระดับนี้เท่านั้น
GQ กางเกงชิโน ผ้ายืด สีแดง ใส่สบาย น้ำหนักเบา สะท้อนน้ำ เหมาะกับอากาศร้อน สบายจริงๆ สบายจัดๆ
GQ กางเกงชิโน >> คลิ๊ก
นวนิยายเรื่องนี้ มี แสร์ เป็นตัวนาง และพ่อไชยหรือออกหลวงวิไชยราชกิจเป็นตัวพระ รวมถึงตัวละครที่สำคัญๆ เช่น สารภี เพื่อนสนิทของแสร์ ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานเครื่องยศเป็นเจ้าจอมสารภี ทั้ง ๒ ทำหน้าที่สืบคดีต่างๆ ภายในวัง
- แสร์ เป็นหญิงสาวชาววังที่มีนิสัยตรงไปตรงมา อารมณ์โผงผาง ซึ่งค่อนข้างแตกต่างหรือผิดแผกไปจากนางข้าหลวงอื่นๆในวัง มีความฉลาด และมีความละเอียดรอบคอบ แต่ค่อนข้างใจร้อน
- เจ้าจอมสารภี มีความใจเย็น สุขุม นุ่มลึก รอบคอบ เมื่อทั้งสอง ต้องมาช่วยกันสืบคดี จึงทำให้เรื่องราวการหาฆาตกรมีความสนุก ชวนให้ลุ้น แม้จะมีอุปสรรคในการสืบสวนบ้าง แต่ก็ได้หมอโหมด แม่พิกุล แม่เฮง แม่สุ่น (ธิดาของวัน วลิต) ช่วยสนับสนุนการสอบสวนด้วยการหาข้อมูลจากนอกวัง
ปมคดีการตายของ “เจ้าจอมดอกแก้ว”
ผู้เขียน ไม่ได้หยิบยกเฉพาะผ้าลายราชสีห์มาเป็นหลักฐานในสืบสวนคดีเท่านั้น แต่ยังมี ใบลาน เพลงยาว และสติปัญญาในการไขปริศนาเพิ่มเติมอีกด้วย การสืบสวนหาฆาตกรในครั้งนี้ มีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องกับต้นสายปลายเหตุการฆาตกรรมเจ้าจอมดอกแก้วอยู่หลายคน และผู้คนที่เกี่ยวข้องเหล่านั้นถูกสังหารหมด ทำให้ความซับซ้อนในคดียิ่งเข้มข้น อีกทั้งเรื่องราวฝ่ายในก็ยังมีการแก่งแย่งชิงดีระหว่างเจ้าจอมด้วยกัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดคดีการตายของเจ้าจอมดอกแก้ว
ในส่วนของเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ จาก นวนิยาย ลายราชสีห์
ผู้เขียน คุณหมอพงศกร ได้แทรกเรื่องราวอยู่โดยตลอด ไม่มากแต่ก็ไม่น้อยจนเกินไป มีความกลมกล่อม และลงตัว สอดรับไปกับเนื้อหาตลอดตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ อาทิ เรื่องของชาวกรุงศรีอยุธยา เชื้อชาติ สัญชาติอื่น ที่ได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐานทำกิน บนแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็น แขก , มอญ , วิลันดา , เขมร ,ข้าโยม ฯลฯ ซึ่งแต่ละสัญชาติของกลุ่มคนเหล่านี้ จะอาศัยอยู่ตามพื้นที่ต่างๆที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ เนื้อหานวนิยาย ยังทำให้เราจินตนาการถึงบ้านเมืองกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะพระราชวังหลวงครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ยุครุ่งเรืองแห่งกรุงศรีอยุธยาอีกยุค จะเห็นได้จากตอนที่แสร์บรรยายถึง พระที่นั่งวิหารสมเด็จ ซึ่งตั้งอยู่ในพระราชฐานชั้นกลาง โดยระบุว่า
“แสงเงินแสงทองส่องจับยอดพระมหาปราสาทที่ปิดทองประดับด้วยกระจกสีและอัญมณีล้ำค่า เกิดเป็นประกายระยิบระยับ งดงามราวเมืองสวรรค์ชั้นฟ้า ….. พระที่นั่งวิหารสมเด็จเป็นปราสาทยอดปรางค์ มีมุขหน้าและมุขหลังยาว ส่วนมุขด้านข้างนั้นสั้นกว่า มุขด้านหน้านั้นมีมุขเด็จสำหรับเอาไว้ตั้งพระที่นั่งบุษบกมาลา”
แน่นอนว่า …. การพรรณนาถึงความงดงามของ หมู่พระราชมณเฑียร และพระบรมมหาราชวัง นั้น ผู้เขียนได้แหล่งอ้างอิงมาจาก จดหมายเหตุของ วัน วลิต หรือ นายเยเรเมียส ฟาน ฟลีต พ่อค้าชาวฮอลันดา ผู้เดินทางเข้ามากรุงศรีอยุธยา และได้บันทึกเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ วิถีชีวิต บ้านเมือง วัดวาอารามการเป็นอยู่ของชาวกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม จนถึงต้นแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยนายวัน วลิต มีความเข้าใจในภาษาไทยทั้งอ่านและเขียนได้ดี เรื่องราวที่บันทึกจึงมีความละเอียดน่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
** ท่านใดที่สนใจหรือต้องการหาความรู้ทางประวัติศาสตร์เพิ่มเติมที่ใช้ประกอบการเขียนนวนิยายเรื่องลายราชสีห์ สามารถติดตามหาอ่านได้ โดยคุณหมอพงศกร ได้แนะนำหนังสือที่ใช้ในการอ้างอิงการเขียนไว้ในท้ายเล่มด้วยค่ะ
ออสุต พะโค ชาวกรุงศรีอยุธยาเชื้อสายมอญ
ผู้เป็นภริยาของนาย วัน วลิต
นอกจากในนวนิยายจะมีการอ้างถึงตัวละครที่มีตัวตนจริง อย่าง นายวัน วลิต ซึ่งหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี และเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ แล้วนั้น ยังมีระบุถึงบุคคลสำคัญอีกท่าน ที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงมากนัก บุคคลนั้นก็คือ ออสุต พะโค ผู้เป็นภริยาของนายวัน วลิต ชาวกรุงศรีอยุธยาเชื้อสายมอญ บุคคลท่านนี้เป็น หญิงแกร่ง ที่มีตัวตัวจริงในประวัติศาสตร์และยังเป็นคนที่มากความสามารถอีกด้วย
ออสุต พะโค มีชื่อปรากฎอยู่ในจดหมายเหตุของวัน วลิต โดยระบุว่าเป็นสตรีชาวกรุงศรีอยุธยา ที่มีบทบาทในการค้าขายระหว่างฮอลันดาและกรุงศรีอยุธยา และทำให้การเจรจาค้าขายประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เก่งทั้งการค้าและการทูตทั้งๆที่เป็นเพียงสามัญชนทั่วไป
ลายราชสีห์ นอกเหนือจากความบันเทิง เราจะได้ความรู้ ทางประวัติศาสตร์ในเล่มนี้ ทำให้เราสนุกไปกับการอ่าน และการรับรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ รวมถึงได้รู้จักบุคคลสำคัญๆ แห่งยุคสมัยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เป็นเสมือนโบนัส ที่เข้ามาเพิ่มความเข้มข้นให้เนื้อเรื่องในนวนิยายสนุกมากขึ้นอีกด้วย
เรื่องราวความสมหวังระหว่าง แสร์ และออกหลวงวิไชยราชกิจ กว่าจะลงเอยได้นั้น ต้องผ่านการพิสูจน์ การฟันฝ่าหาความจริงแข่งกับเวลาอันน้อยนิด รวมถึงการที่ต้องเอาชีวิตเข้าไปสุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นแสร์ , เจ้าจอมสารภี , แม่พิกุล , แม่เฮง , แม่สุ่น , หมอโหมด หรือแม้แต่ออกหลวงวิไชยราชกิจ ที่แม้อาจจะมีบทบาทน้อย แต่ก็ตกเป็นเงื่อนไขเดียวทั้งหมด ที่แสร์ และทุกคนจะต้องหาทางช่วยเหลือเพื่อให้ออกหลวงวิไชยราชกิจพ้นจากมลทิน ที่สำคัญที่สุด การคืนความยุติธรรมให้กับดวงวิญญาณของเจ้าจอมดอกแก้ว ผู้ที่ไม่สามารถจะแก้ต่าง เรียกร้องความบริสุทธิ์ให้ตนเองได้อีก
( ความคิดเห็นส่วนตัว ) จากเท่าที่อ่านจบทั้งซีรีส์ ชุด สตรีนักสืบศรีอยุธยา ครบทั้ง ๓ เรื่อง
แอดมิน อยากแนะนำให้อ่านจนครบค่ะ เพราะเรื่องราวทั้งหมดทำให้เราได้เห็นเหตุบ้านการเมืองในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้ครบถ้วนต่อเนื่อง ได้ทราบถึง ความเป็นไปของวิถีชีวิตผู้คนตั้งแต่ยุคสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมเด็จพระเพทราชา ผ่านการบอกเล่าและความเป็นไปของตัวละครในแต่ละเรื่อง
ลายราชสีห์ เป็นนวนิยายที่คุณหมอพงศกรเขียนเป็นเล่มสุดท้ายของซีรีส์ชุดนี้ แต่เป็นภาคแรกที่สนุกที่สุด รองลงมา คือ ลายกินรี และลายเหมราช ตามลำดับ
Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro/ R2
ลู่เดิน/วิ่งไฟฟ้า พับเก็บได้ สำหรับการออกกำลังกายภายในบ้าน >> คลิ๊กดูเพิ่มอีก
ที่กล่าวได้ว่า สนุกที่สุด เพราะเนื้อหามีความซับซ้อนกว่า มีหลักฐานที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตายของเจ้าจอมดอกแก้วหลายประการ การวิเคราะห์หาข้อเท็จจริงหรือปริศนาที่อยู่ในใบลาน, การอ่านใจคน การใช้ปัญญาในการวิเคราะห์แยกแยะ รวมถึงความรู้ที่น่าสนใจ และนอกจากนั้นคือ การทำให้ผู้อ่านอย่างเราหลงประเด็นหรือคาดไม่ถึงว่าฆาตกร คือ ผู้ที่เรานึกไม่ถึง !!!
หากคุณผู้อ่านชอบนวนิยายแนวพีเรียด เป็นหนอนหนังสือแนวสืบสวนคดีฆาตกรรม และแนวอิงประวัติศาสตร์ด้วย แนะนำให้อ่านซีรีส์ชุด นักสืบสตรีศรีอยุธยา ทั้ง ๓ เล่ม
อ่านเรียงตามลำดับที่กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ
นอกจากสนุกแล้ว ยังได้ความรู้ทางด้าน นิติเวช, สมุนไพรไทย , การรักษาคนไข้แบบแพทย์แผนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา , วิถีชีวิต บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ , เหตุบ้านการเมืองของยุคสมัยโดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่าน , พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยแห่งกรุงศรีอยุธยา และอีกหลากหลายมิติ ที่จะได้รับจากการอ่านนวนิยายทั้ง ๓ เล่ม การันตีว่าคุ้มค่าต่อความรู้ที่ได้รับอย่างแน่นอนค่ะ
หนังสือรวมชุด 3 เล่ม นักสืบสตรีศรีอยุธยา ของ พงศกร
คุณสามารถอ่านรีวิว เล่มอื่นๆได้เพิ่มเติมจาก >> คลิ๊กที่นี่