เลือกจด Domain name และ Web Hosting อย่างไร ?
ว่างเว้นจาก บทความตอนที่ 1 “วิธีการสร้างเว็บไซด์ของตัวเอง แบบฉบับรวบรัด ตอนที่ 1 รู้จักเว็บไซด์ ” ไปเสียเนิ่นนาน อีก 2 เดือน นับจากตอนแรก ก็จะครบ 1 ปี
9Genuine ต้องขออภัยด้วยครับ เพราะแอดมินติดภาระกิจมากมายเหลือเกินในห้วงเวลาที่ผ่านมา และ วันนี้ ( 9 มิ.ย. 63) หลังจากเรื่องยุ่งๆ ของการแพร่ระบาด ของโควิด-19 กำลังใกล้จะคลี่คลายลงไป (หวังว่านะ) ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า ยังติดค้าง บทความ การสร้างเว็บไซด์ ในตอนที่ 2 นี้ จึงเปิด file word ที่เคยเขียนค้างเอาไว้ ขึ้นมาเคาะๆปัดๆ สักหน่อย ปรับตรงนั้นนิด ปรับตรงนี้ หน่อย ให้สอดคล้องกับยุคสมัยและสถานการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไป…
เกริ่นนำ ไว้ก่อนสักนิดนะครับ ว่า บทความแนะนำ วิธีการสร้างเว็บไซด์ของตัวเอง แบบฉบับรวบรัด นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น และมีเวลาน้อยครับ เน้นปฎิบัติด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของตอนที่ 2 นี้ แอดมินเชื่อเหลือเกินว่า ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะก่อนปรากฎการณ์ Covid-19 หรือ หลังจากนี้ต่อไป ย่อมจะทำให้หลายๆคน ได้เริ่มมองเห็น และเริ่มตระหนักอะไรบางอย่างเข้าให้แล้ว จากก่อนหน้าที่เราเคย กำลังค่อยๆ จะปรับเพื่อเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ Covid-19 กลับเป็น “ตัวเร่ง” ให้เราต้อง ขยับ ปรับ และเปลี่ยนแปลง ให้เร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม …. ” วิธีการบางอย่างในอดีตที่เคยทำ แล้วได้ผลดีในวันนั้น สำหรับวันนี้ ไม่ใช่แล้ว “ วิถีการขาย หรือ ความคิดเดิมๆ ที่จะฝังตัวเองอยู่แค่ ใน Platform (ของคนอื่น) ไม่ใช่ทางรอดเสียแล้ว เช่นกัน ดังนั้น การมี “บ้าน” หรือ “เว็บไซด์” ของตัวเอง วันนี้ จะเป็นก้าวแรกที่เป็นทางรอดที่ยั่งยืน
>> หัวข้อหลักๆ ในตอนที่ 2 นี้ จะกล่าวถึง
1 ) จดทะเบียนโดเมนเนม ( Domain name ) อย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ?
2 ) เลือกเว็บโฮสติ้ง ( Web Hosting ) แบบไหน อย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ?
3 ) เลือก Cms ชนิดไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ?
1 จดทะเบียนโดเมนเนม อย่างไร ? จดกับใคร ? ราคาเท่าไหร่ ?
โดเมนเนม ( Domain name) หากเปรียบกับบ้าน นั่นคือ บ้านเลขที่ ครับ ( หากอ่านในตอนที่ 1 แล้วจะไม่ งง หรือ หากอ่านมาหลายวันแล้ว อาจจะ งง คลิ๊กนี่เลยครับ >>> )
ก่อนจะดำเนินการจดทะเบียน โดเมนเนม หรือบ้านเลขที่ นี้ แน่นอนครับ คุณต้องมีชื่อ หากเป็นบ้าน บ้านเลขที่บ้าน จะเป็นตัวเลข แต่กำหนดชื่อ โดเมนเนม จะเป็นตัวอักษร ครับ คุณอาจจะตั้งชื่อตาม ชื่อแบรนด์ ของคุณ ก็สามารถเลือกได้ครับ แต่อาจจะต้องคำนึงถึงผลต่างๆในระยะยาวด้วย เพราะการตัดสินใจ เลือกชื่อโดเมนเนมไปแล้ว จะเปลี่ยนใจไม่ได้นะครับ ซึ่งหากจะเปลี่ยน ต้องจดชื่อใหม่ไปเลย ยุ่งยาก คิดเสียตรงนี้ ให้ชัดๆไปเลย
ยกตัวอย่าง ชื่อแบรนด์ของคุณ คือ แบรนด์ “สมแมว” หรือ “moggy” ในภาษาอังกฤษ
( การจดชื่อโดเมน ปัจจุบัน สามารถจดชื่อ ภาษาไทย ได้ด้วยนะ )
ก่อนจะจดทะเบียนโดเมนเนม กับผู้ให้บริการ คุณจำเป็นต้องตรวจเช็คให้แน่ใจเสียก่อนว่า moggy มีใครจดแล้วหรือยัง คุณสามารถตรวจสอบได้ง่าย เพียงเข้าไปที่ https://www.ireallyhost.com/whois และคีย์ชื่อ ที่คุณต้องการ จดทะเบียน ลงไป
ยกตัวอย่างภาพ
จากภาพตัวอย่าง ผมได้ทดลอง คีย์ชื่อ moggy ลงไปในช่อง แล้วเลือก นามสกุล แบบมาตรฐาน ดูว่า มีว่างหรือไม่ ?
ผลก็คือ .com ไม่ว่างแน่ๆ คิดไว้ในใจอยู่แล้ว และมันก็จริง แต่เดี๋ยวนะ โอ้วววว !!! ยังมี .net และ .co.th ว่างอยู่ !!! มันยอดมากเลยครับ โดยทั่วไป โอกาสแบบนี้ จะมีไม่มากนะครับ ด้วยเพราะ คำศัพท์สั้นๆ ที่มีความหมายและคำแปล จะว่างใน dot นามสกุลนี้ สนใจมั้ยล่ะ
หรือหากคุณต้องการ .นามสกุบ อื่นๆ ที่มีมากมายสารพัด … ก็สามารถเลือก และเช็คเอาได้ จาก link นี้ครับ https://www.ireallyhost.com/domain/
(((( ปล. การจดทะเบียน .co.th ผู้ขอจดทะเบียน จะต้องใช้เอกสารจดทะเบียนบริษัทฯ เป็นนิติบุคคล สำหรับ กรณีจดทะเบียน .com , , .net ฯลฯ ไม่ต้องใช้เอกสารใดๆในการจดโดเมน ))))
สำหรับราคาการจดทะเบียน โดเมนเนม จะคิดราคาต่อปี ครับ โดยทั่วไป ก็อยู่ราวๆ 250-900 บาท/ปี บางนามสกุล ก็แพงมากๆ ครับ ถ้าจ่ายไหว ก็ จัดไป ครับ….
หากมั่นใจว่า “ฉันจะใช้ชื่อนี้แหละ” มันใช่เลย !!! ก็คลิ๊กซื้อไว้ก่อนครับ ถ้าชอบและมั่นแล้ว อย่ามัวรีรอ เพราะวันนี้ว่าง อีก 2-3 วันถัดไป อาจจะไม่ว่างแล้วก็ได้ …. ซื้อมาเก็บรอไว้ก่อนได้เลย แล้วค่อยไปดำเนินการเรื่อง โฮส และ CMS ในลำดับถัดไป
แต่หากยังไม่มั่นใจเรื่อง ชื่อ …. หรือ คิดว่า ไม่เป็นไร รอได้ หากในวันที่พร้อมจดแล้วจริงๆ มันไม่ว่าง เราก็มีชื่อสำรอง รอไว้แล้ว แบบนี้ก็ไม่เป็นไร ครับ รอให้ทุกอย่างพร้อม ค่อยจดก็ได้ครับ ไม่ผิด ไม่แปลก ไม่มีใครว่า…
2 เลือกเว็บโฮสติ้ง แบบไหน อย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ?
Web Hosting ( เว็บโฮสติ้ง ) หากเปรียบกับบ้าน นั่นคือ ที่ตั้งของบ้าน หรือ ครับ ( หากอ่านในตอนที่ 1 แล้วจะไม่ งง หรือ หากอ่านมาหลายวันแล้ว อาจจะ งง คลิ๊กนี่เลยครับ >> )
การเลือก Web Hosting หรือ ขนาดของบ้าน กล่าวคือ เลือกตามขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการของเราครับ และแน่นอน ระดับราคา ย่อมแตกต่างกันออกไป เช่น แบบ Private Server หรือ แบบ Shared Hosting … แบบ Private Hosting ราคาค่าบริการจะสูงมากครับ คิดอัตราเป็นรายเดือน เดือนละหลายร้อยบาท เลยทีเดียว ส่วน แบบ Shared hosting ค่าบริการจะย่อมกว่า อยู่ในระดับ 900-10000 บาทขึ้นไป …. ต่อ ปี นะครับ
Private กับ Shared ต่างกันอย่างไร ?
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ นะครับ
- Private เปรียบเหมือน บ้านเดี่ยว มีพื้นที่ให้คุณจัดสรร เยอะมาก คนเข้า คนออก สะดวกสะบาย ไม่ค่อยมีปัญหากับเพื่อนบ้าน
- Shared เปรียบเหมือน คอนโดมิเนียม มีพื้นที่ใหัคุณจัดสรร ค่อนข้างจำกัด คนเข้าคนออก ไปมาหาสู่ ก็ทำได้ ในปริมาณที่เหมาะสม อาจจะมีปัญหากับเพื่อนบ้านห้องอื่นๆบ้าง เป็นธรรมดา
เบื้องต้น ผมจะแนะนำให้เลือกแบบ Web hosting แบบ Shared Hosting ครับ
เนื่องจากเหมาะสม กับการเริ่มต้น และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากพอควร สำหรับ Shared hosting ผมคิดว่า เพียงพอแล้วครับ สำหรับการรองรับการเข้าใช้งานของลูกค้า ในช่วงเริ่มต้น หรือในระยะยาว ทั้งนี้ เราสามารถปรับเปลี่ยนขนาดบ้านของเราได้ในอนาคต หากพบว่า เนื้อที่เราเล็กเกินไปแล้ว เราก็สามารถเพิ่มได้ในภายหลังครับ
สำหรับราคา ค่าบริการ เช่า Web Hosting ( เว็บโฮสติ้ง ) แบบ Shared Hosting ก็มีหลายระดับราคาครับ ในแต่ละผู้ให้บริการแต่ละเจ้า ก็แตกต่างกันไป ผมจะยกตัวอย่างจาก ireallyhost ครับ จะเห็นว่า มีหลายระดับราคาให้เราเลือก ได้อย่างจุใจเลย งบน้อย ลองดูก่อน ก็เลือก Basic ได้ ปีละ 900 บาท เท่านั้นเอง หรือจะเลือกกลางๆ สักหน่อย ไม่น้อยไม่มาก จนเกินไป ก็ medium ครับ ทั้งนี้ เราสามารถปรับเปลี่ยน ขนาดได้ตลอดครับ
ยังมี Features อีกยาวเยียด สามารถคลิ๊กอ่านได้จาก link นี้ได้ครับ https://www.ireallyhost.com/hosting/hosting-package-comparison
ก่อนไปในส่วนของข้อ 3 ผมขอเบรค ในส่วนนี้ไว้ก่อน
ผมขอแทรกข้อมูลอะไรบางอย่าง บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ ว่า การเลือกผู้ให้บริการ การจดโดเมนเนม ( Domain Name ) และ การเช่า Web Hosting ( เว็บโฮสติ้ง ) คุณสามารถเลือกดำเนินการทั้ง 2 อย่าง ในผู้ให้บริการรายเดียว ได้ หรือ แยกผู้ให้บริการ ก็ได้ เช่น จดทะเบียนโดเมน กับผู้ใหบริการเจ้าหนึ่ง แต่ ไปเช่า Web Hosting กับอีกเจ้าหนึ่ง ก็ได้เช่นกัน
แต่ เนื่องจาก บทความนี้ เป็นบทความข้อแนะนำ สำหรับมือใหม่ ผมจึงขอแนะนำว่า ให้เลือกใช้บริการ ทั้ง 2 อย่างนี้ กับผู้ให้บริการเดียว ครับ ซึ่งมันจะทำงานได้ง่ายและคล่องตัวกว่า และเวลาขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ ก็ทำได้แบบสะดวกด้วย
เมื่ออ่านบทความมาถึงตรงนี้ ท่านจะสังเกตได้ว่า ผมจะยกตัวอย่าง จาก https://www.ireallyhost.com ทั้งในส่วนของ การจดโดเมนเนม และ เว็บโฮสติ้ง บางท่านอาจจะเข้าใจว่านี่คงเป็น บทความ Advertorial หรือเป็นบทความ ที่ได้ค่าตอบแทน ผลประโยชน์ใดๆ จากผู้ให้บริการดังกล่าว หรือเปล่า ? คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด แต่แอดมิน มาเขียนแนะนำ จากประสบการณ์จริงที่ตนเอง ซึ่งได้ใช้บริการอยู่ และไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆอย่างแน่นอน
เว็บไซด์ www.bagindesign.com ที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้
ก็ใช้บริการของ ireallyhost อยู่ครับ รวมถึงเว็บไซด์ อื่นๆ อีก จำนวน 3 เว็บไซด์ ผมก็ใช้บริการเจ้านี้ด้วยเหมือนกัน รวมแล้ว 4 เว็บ ใช้บริการทั้งจดโดเมน ทั้งเช่าโฮส ใช้เจ้าเดียวรวด 5555 (ใครเค้าทำกัน ผมก็ยัง งงๆ อยู่ ) นานๆที ก็พบปัญหาทางเทคนิค บ้างครับ เล็กๆน้อยๆ และผมก็เชื่อนะครับ ว่า คงไม่มี Web Hosting แห่งไหน โดยเฉพาะแบบ Shared Hosting จะไม่เคยพบปัญหาใดๆเลย แต่ปัญหามากหรือน้อย นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ติดต่อผู้ให้บริการง่าย และได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ครับ อันนี้ ผมประทับใจ บริการดี ก็บอกต่อ แต่นั้นจริงๆ
เอาล่ะครับ ในตอนที่ 2 แนะนำ วิธีการสร้างเว็บไซด์ของตัวเอง ฉบับรวบรัด ตอนที่ 2 เลือกอย่างไร ? นี้ ผมตั้งใจจะเขียนให้ครบ ทั้ง 3 หัวข้อหลัก แต่ อาจจะต้องจบเพียงเท่านี้ก่อน เพราะบทความเริ่มยาวแล้ว
ผมขอตัดตอน ในหัวข้อที่ 3 คือการ เลือก Cms ชนิดไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ? เอาไว้ ในโอกาสถัดไปนะครับ เพราะเนื้อหาค่อนข้างมาก และจะแนะนำ CMS หลายๆ แบบ ให้คุณได้เลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
และสัญญาครับ จะไม่ให้รอข้ามปี เหมือนกัน ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 ครับ 😉