9Genuine Craftsman, Uncategorized

e-marketplace ช่องทางการจำหน่าย เรื่องที่สำคัญ

ช่องทางการจำหน่าย ทาง e-marketplace เป็นเรื่องที่สำคัญ

e-marketplace

เมื่อเราก่อร่างสร้างแบรนด์ กระเป๋าหนังแท้ แบบมีสไตล์เป็นของตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไป ที่สำคัญ คือ “ช่องทางการขาย” ในโลกของ ออฟไลน์ ช่องทางการขาย ก็จะมีทางเลือกอยู่ 2 ประเภท ด้วยกัน คือ

1 เปิด Shop หน้าร้านของตัวเอง

2 ฝากขายตามห้างสรรพสินค้าฯ เป็นต้น …


 

แต่สำหรับช่องทางการขายในโลกออนไลน์ แล้ว แน่นอนครับ ก็คงไม่ต่างจากโลกออฟไลน์ สักเท่าไหร่ นั่นก็ คือ

1 การเปิดเว็บไซด์ของตัวเอง ( นั่นก็เปรียบเสมือน การเปิดหน้าร้านของตัวเอง ในโลก ออฟไลน์ )

2 เปิดร้านขาย ใน e-marketplace ( นั่นก็เปรียบเสมือน การฝากขายตามห้างฯสรรพสินค้า นั่นเอง )

 

แล้วเจ้า e-marketplace ที่ว่านี้ มันคือ อะไร ? มีความสำคัญอย่างไร ?

 

e-marketplace ( อีมาร์เก็ตเพลส) คือ อะไร ?

e-marketplace คือ เว็บไซด์ที่เป็นสื่อกลาง เป็นตลาดซื้อขายสินค้า ผ่านเว็บไซต์ ที่มีระบบจัดการสินค้าสำหรับผู้ขาย และระบบตะกร้าการชำระเงิน สำหรับผู้ซื้อ โดย อีมาร์เก็ตเพลส นี้ จะรวบรวมร้านค้า และสินค้าในหลากหลายประเภทไว้ในที่เดียวกัน อาจจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ประเภทสินค้าเอาไว้อย่างชัดเจน สามารถสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม.

มีความสำคัญอย่างไร ?

อีมาร์เก็ตเพลส ช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่าย และเพิ่มโอกาสการขาย มากยิ่งขึ้น ครับ นอกจากนี้ ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับ แบรนด์สินค้าเกิดใหม่ ที่ยังไม่พร้อมที่จะมีเว็บไซด์เป็นของตัวเอง ด้วยเงื่อนไขทางเทคนิค ของบุคลากร หรือ งบประมาณที่จำกัด นั่นเอง

e-marketplace ในประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง ? ต้องเลือกอย่างไร ? มีค่าใช้จ่ายมั้ย ?

Platform e-marketplace ที่นิยมในประเทศไทย คงจะทราบกันอยู่บ้างแล้วนะครับ ว่ามีแห่งไหนบ้าง ยกตัวอย่าง แล้วก็ร้องอ๋อ คือ Lazada, Shopee และ Zilingo ซึ่ง platform เหล่านี้ บางแห่ง จะกำหนด Section ในการจำหน่าย เช่นเน้นในประเทศนั้นๆ ซึ่งหากเราต้องการจะ Go inter เจาะกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ ก็ต้องมองหา platform อื่นๆ เพิ่มอีก ก็เช่น ebay , amazon หรือ Etsy เป็นต้น

 ต้องเลือกอย่างไร ?

คำตอบคือ เลือกทุกที่ … !!! ไม่ใช่ล่ะ เหนื่อยตายเลย เอาใหม่คิดใหม่ เลือกแบบไหนดี ? … ครับ ก็ต้องมีชั้นเชิงกันหน่อย จะต่อยแบบมวยวัด ฟาดไปฟาดมา เหนื่อยหมดแรงแพ้น๊อคกันพอดี …. เราต้องมาพิจารณากันล่ะครับ ว่า เราจะเลือกไปอยู่ใน platform ไหนดี อะไรจะเป็นตัวชี้วัด อะไรคือเหตุผลที่ต้องเลือกที่นั่นที่นี่ มาต่อกันเลย

ทุกๆ platform อีมาร์เก็ตเพลส ล้วนมีบุคคลิกของตัวเอง … ไม่มากก็น้อย …. ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่า ให้คุณเลือกอยู่กับ platform ที่มีบุคคลิก เช่นเดียวกับคุณ กลุ่มเดียวกับคุณ หรือใกล้เคียงมากที่สุด นั่นก็เพราะว่า การที่มีอัตลักษณ์ ที่ใกล้เคียงกัน ย่อมจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่เป็นแบบที่คุณต้องการ คือ แบบที่ใช่ มากกว่า นั่นเอง ครับ

Lazada และ Shopee และ Zilingo หรือแม้กระทั่ง jd. central จับรวบไว้กลุ่มเดียวกันเลย เพราะมันมีบรรยากาศเหมือนกันเสียเหลือเกิน

เชื่อว่า หลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ 9 ใน 10 ย่อมต้องเคยแวะเวียน  lazada หรือไม่ก็ shopee แหละครับ คุณลองพิจารณาจากประสบการณ์ของตัวเองก็ได้ครับ ว่า 2-4 แห่งนี้ มีบุคคลิก อย่างไร มีสินค้า มากมาย “มหาศาล” ทั้ง สินค้าทั้งที่มาจากในประเทศไทย , ร้านในประเทศไทย แต่เอามาจากประเทศอื่น , หรือ ร้านจากต่างประเทศ ที่ร้านในประเทศไทย ไปเอาเข้ามา ( งงมั้ยครับ ) นั่นล่ะครับ วางเต็มไปหมด เห็นแล้วก็แอบเหนื่อย กับแบรนด์เล็กๆ อย่างเรา เนอะ …. แต่ไม่เป็นไร แอดมิน มีแหล่งอื่นๆ มาแนะนำ

    ปล. Lazada และ Shopee , Zilingo สามารถ สมัครเปิดร้านได้ง่ายๆ แม้เป็นบุคคลธรรมดา ส่วน jd central ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะรับเฉพาะร้านค้าที่จดทะเบียนบริษัทฯ เท่านั้น ….

     เอาล่ะ มาแล้ว 2 Platform e-marketplace ที่แอดมินจะกล่าวถึง เชื่อว่า น่าจะตอบโจทย์ กับแบรนด์เกิดใหม่ และสามารถเล็งได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา ไม่มากก็น้อยล่ะ

 

1 Etsy ( เอ๊ท-ซี่ ) ตลาดหลักคือ อมเริกา รองมาคือ ยุโรป

1 มีค่าวางสินค้า รายการละ 0.20 usd ต่อ 4 เดือน

2 ค่าคอมมิชชั่น จากการขาย 3.5% ของยอดที่ขายได้

3 ค่า fee ในการโอนเงินให้เรา หากเลือก paypal จะหัก อีก 4%

4 เงินโอนเข้า paypal ทันที ที่มีการสั่งซื้อ พร้อมหักค่าธรรมเนียมดังกล่าว

5 Platform เป็นภาษาอังกฤษ

https://www.etsy.com/

 

logo pinkoi

2 Pinkoi (พินคอย ) ตลาดหลักคือ เอเซีย ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง/มาเก๊า และ ไทย

ไม่เก็บค่าวางสินค้า แต่จะมีค่าประกันร้าน 3,000 บาท ( ตอนนี้ฟรี เฉพาะร้านในประเทศไทย)

ค่าคอมมิชชั่น ค่าบริการรวม = (ราคาสินค้า + ค่าจัดส่ง) * 15% NT$ 15

*ลดค่าบริการเหลือ 5% (เฉพาะใบสั่งซื้อภายในประเทศ หรือใบสั่งซื้อต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า NT$300)

ตามกฏหมายภาษีรัฐบาลไต้หวัน จะมีการหักภาษีเพิ่มอีก 5% จากค่าบริการรวม = ((ราคาสินค้า + ค่าจัดส่ง) * 15% + NT$15) * 5%

รอบโอนเงินให้ผู้ขาย ตัดรอบทุกวันที่ 20 ของเดือน

5  platform มีหลายภาษา และมีภาษาไทยด้วย มีเจ้าหน้าที่คนไทย ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษา

ประชาสัมพันธ์


 

 

>>  สมัครเปิดร้านฟรี ใน Pinkoi

 

ทั้งนี้ การมีเว็บไซด์เป็นของตนเอง ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่นะครับ แม้คุณเลือกที่จะไปอยู่ใน platform อื่นๆ ที่ไหน กี่แห่งก็ได้ หรือมีอยู่ทุกแห่งก็ตาม และ คุณจะมี fanpage facebook และ Instagram แล้ว ก็ตาม

       การมีเว็บไซด์เป็นของตัวเอง นั้น เปรียบเสมือน การมีร้าน หรือ บ้าน ของตัวเอง แม้เว็บไซด์ของเรา จะมีหรือไม่มี ระบบสั่งซื้อแบบตะกร้า e-commerce ก็ตามที ก็ไม่เป็นไร แต่การมีเว็บไซด์แบรนด์นั้น เป็นการบอกถึงการมีตัวตน ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว ล่ะครับ

แถมท้าย หากคุณกำลังมองหา อีมาร์เก็ตเพลส แห่งอื่นๆ นอกเหนือจากที่ยกตัวอย่างมานี้ ซึ่งมันก็มีอีกมากครับ แต่มีอีกข้อที่ผมอยากจะแนะนำเอาไว้พิจารณาคือ อีมาร์เก็ตเพลส ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นของไทย หรือเทศ  นั้น ผู้ให้บริการจะต้องมีระบบการจัดการสินค้าให้ผู้ขาย ได้ใช้งานง่าย สามารถ บริหารจัดการเกี่ยวกับสินค้า ราคาขาย และโปรโมชั่น ได้อย่างสะดวก

 

บทความโดย :  9genuine Craftsman  รับผลิต ตัดเย็บกระเป๋าหนังแท้ และเครื่องหนัง สำหรับผู้เริ่มต้นสร้างแบรนด์ เครื่องหนังเป็นของตนเอง

รับผลิต ตัดเย็บ กระเป๋าหนังแท้ 9genuine

 

รองเท้า anta StreetPlay Lite Women



Cultures of Fermented 
by Scoby Doit
Previous ArticleNext Article