เลือกใช้กระเป๋า ที่ไม่เหมาะสม หรือหนักเกินไป นอกจากจะทำให้หัวไหล่ และ แขน เกิดความล้า ในระยะยาวยังส่งผลถึงกระดูกสันหลังของเราด้วย น้ำหนักของกระเป๋ารวมสัมภาระ ที่เราสะพายแต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน 10-15% ของน้ำหนักตัวของคุณ
รู้ไว้ ใช่ว่า ใส่บ่าแบก กระเป๋า…
เคยสังเกตุตัวเองหรือเปล่าคะ ว่าในแต่ละวัน
เราพกพาสัมภาระ อะไรบ้างไว้ในกระเป๋า ?
ผู้เขียนก็เป็นอีกคนที่ชอบขนบ้านมาไว้ในกระเป๋าค่ะ ^^ ทั้งหนักอึ้ง แต่ก็แบกได้ ขนได้ทุกสิ่งอย่าง อีกทั้งเวลาหาสมบัติเราแต่ละครั้ง ก็ใช้เวลานานเชียว เพราะคิดว่ากระเป๋าเป็นทุกสิ่งของชีวิต ยิ่งกว่ากระเป๋าโดราเอมอน (ถ้าใส่บ้านได้ด้วย คงจะหาบ้านเจอในกระเป๋าด้วยค่ะ) ^^ และสำหรับคุณผู้หญิงด้วยแล้ว ข้าวของ สัมภาระ สารพัดสิ่ง มีครบเซ็ตในกระเป๋าเลยค่ะ ทั้งกระเป๋าธนบัตร , ใบเล็กใบน้อย กระเป๋าใส่เหรียญ กระเป๋าเครื่องสำอางค์ โทรศัพท์มือถือ ไดอารี่ หนังสือ ที่ชาร์จทั้งโทรศัพท์ ทั้งเครื่องสำอางมาแบบจัดเต็มเลย ก็ผู้หญิงนี่คะ เป็นเพศที่มีความรอบคอบสูงอยู่แล้ว
วันนี้ผู้เขียนไม่ได้จะมาแนะนำให้คุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายขยันหอบสิ่งของลงกระเป๋านะคะ แต่จะมาแนะนำและบอกกล่าวถึงอันตรายที่แอบแฝงอยู่ในพฤติกรรมบ้าหอบฟางของเรา ค่ะ
ผู้เขียนมั่นใจว่า หลายๆ คน หลังกลับจากการทำงานในแต่ละวัน จะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ บ่า และหัวไหล่ นอกเหนือจากสาเหตุการนั่งทำงานเป็นเวลานานแล้ว อีกปัจจัยหนึ่ง อาจมาจาก สัมภาระที่หนักเกินความจำเป็น ข้อแนะนำที่ถูกต้องทางการแพทย์ ระบุว่า น้ำหนักของกระเป๋าที่เราสะพายแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 10-15% ของน้ำหนักตัวค่ะ มิเช่นนั้น อันตรายที่จะเกิดในระยะยาวคือ กระดูกสันหลังของเราจะมีปัญหาได้นะคะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณ Kevin Slates ได้ทำการสำรวจถึงปัญหาดังกล่าวเมื่อปี 2007 ได้สรุปว่า
“นักศึกษาหญิงพบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทางร่างกาย โดยอาการปวดหลังและหัวไหล่ในนักศึกษาหญิงมีมากกว่านักศึกษาชาย และสายสะพายกระเป๋าเจ้าปัญหาคือ สายสะพายแบบเดี่ยว ค่ะ”
สิ่งที่เราจะสามารถแก้ไขปัญหาได้นั้น คือ เราไม่ควรใส่สัมภาระที่หนักมากเกินความจำเป็น ในกระเป่าเรา ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่ดีที่สุด แต่หากมีความจำเป็นในบางครั้ง ก็อาจจะลองเปลี่ยนกระเป๋าให้เหมาะสมกับสัมภาระที่เรามีนะคะ เช่น จากกระเป๋าสายสะพายเดี่ยว อาจจะเลือกเป็นสายสะพายคู่ และสายกระเป๋าควรเป็นสายหนังที่มีความนุ่มมากกว่าแข็งกระด้างค่ะ เพราะสายสะพายที่นุ่มและหนา รวมถึง ความกว้างของสายสะพาย จะสามารถช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่าแบบอื่น หรือการใช้กระเป๋าแบบเป้สะพาย เป็นการถ่ายน้ำหนักได้ดีกว่าเช่นกัน
นอกจากนี้ในการสะพาย ระหว่างวัน ควรสลับข้างบ้างค่ะ ไม่ควรสะพายกระเป๋าไว้เพียงด้านใดด้านหนึ่งนานเกินไป เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อแขน หัวไหล่ทำงานหนักอยู่ข้างเดียวซึ่งจะเป็นต้นเหตุของปัญหากล้ามเนื้ออักเสบ อย่างเรื้อรัง ที่สำคัญที่สุด ในส่วนของต้นคอ หากเกิดอาการล้าบ่อยๆ จะมีผลต่อกระดูกสันหลังได้ค่ะ ผู้เขียนได้สรุปวิธีการง่ายๆ สำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ ที่มักมีกระเป๋าคู่กายตลอดเวลา ให้ลองปฎิบัติกัน เพื่อสุขภาพร่างกายของเราเองค่ะ
การเลือกใช้กระเป๋า
⦁ ควรเลือกขนาดของกระเป๋าให้เหมาะสมกับสัดส่วนและรูปร่างของเราค่ะ อาทิเช่น สาวๆ หรือหนุ่มๆ รูปร่างเล็กไม่ควรเลือกสะพายกระเป่าขนาดใหญ่เกินไป และน้ำหนักของกระเป๋าไม่ควรเกิน 10% ของน้ำหนักตัว จึงจะเหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพกล้ามเนื้อเราที่สุด
⦁ สายสะพายกระเป๋าควรมีขนาดความกว้างที่เหมาะสมกับขนาดกระเป๋า ปรับสายสะพายสั้น-ยาวได้ ตามความเหมาะสม หากมีที่รองบ่าจะดีต่อกล้ามเนื้อหัวไหล่ การเลือกสายสะพายที่เล็ก เช่น สายสะพายแบบโซ่ หรือสายเส้นเล็ก อาจจะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบได้ในระยะยาว และเกิดการเจ็บปวดในเวลาต่อมา หากเป็นไปได้ในการสะพายกระเป๋า อาจจะเลือกรูปแบบการสะพายแบบ Crossbody บ้าง เพื่อเป็นการถ่ายเทน้ำหนักกระเป๋าให้สมดุลกับน้ำหนักตัวของเราค่ะ
⦁ ลองหันมาพิจารณา กระเป๋าแบบเป้ เป็นอีกทางเลือกสำหรับท่านที่มีสัมภาระมากจริงๆ เพราะการสะพายแบบเป้ จะดีต่อสุขภาพกล้ามเนื้อของเรามากกว่าแบบอื่น
⦁ ไม่ควรเลือกกระเป๋าที่มีช่องใส่สัมภาระเพียงช่องเดียว เพราะนอกจากระเบียบในกระเป๋าจะไม่มีและทำให้เราหาสิ่งของได้ไม่สะดวกแล้ว ยังทำให้ให้น้ำหนักโหลดกว่าแบบกระเป๋าที่มีช่องสัมภาระอื่นๆ เพิ่ม ซึ่งจะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่า
⦁ ควรสลับข้างในการสะพายบ้างค่ะ เพราะการแบกสัมภาระข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลายาวนานเกินไป จะมีผลต่อกล้ามเนื้อช่วงหัวไหล่ แขน และต้นคอ ก่อให้เกิดอาการอักเสบได้ในระยะยาว
ข้อสรุปและเทคนิคง่ายๆ ดังกล่าวนั้น เป็นเพียงการแก้ปัญหาในระหว่างเหตุนะคะ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด คือ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมในการบรรจุสัมภาระในกระเป๋า ควรจัดสัมภาระที่จำเป็นเท่านั้นนะคะ สิ่งไหนที่ไม่ใช้ เราก็ไม่ควรใส่ไปในกระเป๋าค่ะ นอกจากจะทำให้กระเป๋าของเราหนัก และเกิดปัญหากับสุขภาพร่างกายของเราแล้ว ยังอาจจะทำให้เราเสียเวลาในการหาสัมภาระในกระเป๋าอีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้นกระเป๋าเราอาจจะชำรุดโดยไม่รู้ตัวค่ะ
อย่าลืมนะคะว่า กระเป๋าสะพายบาง รุ่นและบางแบบนั้น ถูกกำหนดและออกแบบมาไว้สำหรับสะพายของเท่าที่จำเป็นค่ะ หากเราใส่สัมภาระมากเกินไป อายุการใช้งานของกระเป๋าใบโปรดของเราก็อาจจะสั้นไปด้วยค่ะ ^^
รู้เช่นนี้แล้ว ลองมาเริ่มต้นจัดสัมภาระในกระเป๋าของเรากันตั้งแต่วันนี้เลยดีมั๊ยคะ ?
Cultures of Fermented
by Scoby Doit