สุดสัปดาห์ วันหยุดเนื่องในเทศกาลวันแม่ที่ผ่านมา ( 2018) แอดมิน มีโอกาสพาคุณพ่อและคุณแม่ไปท่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพมหานคร พร้อมกับครอบครัว ไม่ต้องเล็งพื้นที่ไกลที่ไหนเลยค่ะ ที่นี่ จังหวัดเพชรบุรี ตอบโจทย์ทุกการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แหล่งช้อปปิ้ง ย่านวัฒนธรรม ตลาดน้ำก็มี วัดสวยเก่าแก่ วัดโบราณ ชมงานจิตรกรรมสมัยอยุธยาที่จัดได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่ง ที่ยังคงหลงเหลือในประเทศไทย
หากไม่นับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นราชธานีเก่าแล้ว จังหวัดเพชรบุรี ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญอีกแห่ง ที่คนรักศิลปะทุกแขนงต้องมา เพราะชิ้นงานแต่ละประเภท เป็นชิ้นงานเอกอุ ที่หาชมได้ยากยิ่ง มีคุณค่าต่อการมาเรียนรู้ในเชิงประวัติศาสตร์ศิลป์อย่างที่สุด อีกทั้ง ประวัติศาสตร์ของเมืองก็ยังมีครบถ้วนให้เราได้ศึกษา วันนี้ แอดมินจึงอยากจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด และวิถีท่องเที่ยวไปในเมืองเพชรบุรีแบบสไตล์ สบายๆ
เมืองเพชรบุรี เป็นเมืองเก่าแก่โบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี เนื่องจากมีจารึกไว้เป็นหลักฐานในหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ ๑ โดยกล่าวถึงเมืองในอาณาเขตของสุโขทัยที่อยู่ทางใต้ว่า “…เบื้องหัวนอน รอดคนที พระบาง แพรก สุพรรณภูมิ ราชบุรี เพชรบุรี ศรีธรรมราช ฝั่งทะเลสมุทรเป็นที่แล้ว…“
จากข้อความในจารึกแสดงให้เห็นว่า เพชรบุรีมีฐานะเป็นเมืองที่มีความสำคัญ หากพิจารณาถึงหัวเมืองอื่นๆที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น เมืองเพชรบุรีนับเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของประเทศไทยทางด้านฝั่งตะวันตก ในบันทึก หรือ เอกสารของชาวต่างประเทศ จะเรียกเมืองเพชรบุรีในแบบที่ ชาววิลันดา หรือ ชาวฝรั่งเศสเรียกกันว่า พิพพีล์ จึงสันนิษฐานกันว่า ชื่อ เมืองพิพพีล์ หรือเมือง พริบพรี ที่เรารู้จักกันนั้น ก็คือ เมืองเพชรบุรี ในปัจจุบันนี้นั่นเอง
นอกจากนี้ อีกเหตุผลหนึ่งในเชิงตำนานเรื่องเล่า ที่ส่งต่อกันมา ชื่อ เมืองเพชรบุรี อาจจะมีที่มา คือ” เป็นเมืองที่เมื่อตกค่ำ มักจะปรากฎแสงระยิบระยับที่บริเวณเขาแด่น จึงได้ชื่อว่า เพชรบุรี เมืองที่อุดมไปด้วย เพชรพลอย และอัญมณีอันมากมาย”
แม้ตำนานจะบอกกล่าวเช่นนั้น หากเปรียบเทียบถึงข้อเท็จจริงในปัจจุบัน เมืองเพชรบุรี ก็นับได้ว่าเป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม อย่างแท้จริง เป็นเพชรแท้ที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ที่ร่ำรวยทั้งเชิงศิลปะวัฒนธรรมมาตั้งแต่ครั้งสมัยสุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี และ กรุงรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรี ถึงกับมีพระราชดำริสร้างพระราชวัง วัดวาอารามขึ้นเป็นที่ประทับ บนเขาในเขตตัวเมือง และให้ชื่อว่า พระนครคีรี
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ก็ทรงมีพระราชดำริสร้างพระราชวังขึ้นเป็นที่ประทับเพื่อแปรพระราชฐานเช่นกัน พระราชวังนั้นคือ วังบ้านปืน หรือ พระรามราชนิเวศน์ เพื่อสำหรับพักผ่อนและดูแลพระพลานามัยส่วนพระองค์ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากทะเลนัก และในรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างพระราชนิเวศน์มฤคทายวันไว้สำหรับพักรักษาพระวรกาย จึงจะเห็นได้ว่าจังหวัดเพชรบุรีนั้นมีความสำคัญมากมายเพียงใด เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่พระมหากษัตริย์ถึง ๓ รัชกาล มีพระราชดำริสร้างพระราชวังเป็นที่ประทับ
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ก็ทรงมีพระราชดำริจัดทำโครงการน้อยใหญ่มากมาย ในเขตเมืองเพชรบุรี เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อให้พสกนิกรอยู่ดี กินดี มีอาชีพ เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ โครงการพระราชดำริที่เป็นที่รู้จัก เช่น โครงการชั่งหัวมัน , โครงการตามพระราชประสงค์หุบกระพง , โครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี , มูลนิธิชัยพัฒนา โครงการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีอันเนื่องพระราชดําริ และอีกมากมายรวม ๒๒ โครงการ
ความสำคัญของเมืองเพชรบุรีจึงไม่ธรรมดาทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ การพัฒนาคุณภาพชีวิต พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และอื่นๆ และการมาเยือนเมืองเพชรบุรีในครั้งนี้ของฉัน ก็ขอถือโอกาสพาทุกท่านได้รู้จักจังหวัดเพชรบุรีกันเพิ่มเติม แถมท้ายด้วยที่เที่ยวในโครงการพระราชดำริเพิ่มเติมในเขตพื้นที่ อ.หัวหิน ค่ะ
เมื่อเข้าเขตเมืองเพชรบุรี ไฮไลท์ที่เห็นเด่นชัดที่สุด โดยที่เราไม่เห็นป้ายก็รู้ได้ทันทีว่าเราอยู่ในเขตอำเภอเมืองเพชรบุรีแล้ว ก็คือ พระนครคีรี หรือเขาวัง พระนครคีรีหรือเขาวัง มีความเป็นมาอย่างไร สำคัญมากแค่ไหน และเหตุใดพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถึงเลือกที่จะสร้างพระราชวังและเสด็จประทับที่นี่ ฉันอยากแนะนำให้ทุกท่านแวะไปเที่ยวชม ทำความรู้จักถึงที่มาที่ไปก่อนที่จะขึ้นไปยังพระนครคีรี จุดหมายแห่งแรกที่ควรไปนั่นคือ พระจอมเกล้าฯ บรมราชานิทัศน์
ถ้าคุณมาเมืองเพชรบุรีครั้งแรก หรืออาจจะเคยมาหลายครั้งแล้ว คุณอาจจะนึกไม่ถึงว่า จะมีนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวพระราชประวัติของพระองค์ในบริเวณสวนสาธารณะกลางเมือง ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ ๔ หากไม่เชื่อ ให้ลองท้าทายกันดูกับเพื่อนๆค่ะว่า นิทรรศการที่กล่าวถึงนั้น จัดแสดงอยู่บริเวณใด ??? ในอุทยานเฉลิมพระเกียรติร.๔ ณ สวนสาธารณะ ๖๐ พรรษา เพชรประชาร่มเย็น บนถนนคีรีรัถยา สถานที่เดียวกับที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดเพชรบุรี ต้องบอกว่าคนเมืองเพชรช่างคิดและใช้ประโยชน์กับพื้นที่ได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ
เฉลย !! นิทรรศการที่น่าสนใจ ดังกล่าว ตั้งอยู่ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๔ ค่ะ รูปแบบทางสถาปัตยกรรมยังดูน่าสนใจ คล้ายกับการก่อสร้างพระนครคีรี ที่มีทางวนขึ้น–ลง โดยรอบ แม้จะดูแล้วไม่ได้มีขนาดใหญ่โตโอฬาร แต่งานสถาปัตยกรรม พระบรมราชานุสาวรีย์ก็มีรายละเอียดให้เห็น ลักษณะทางขึ้น–ลง คล้ายกับทางขึ้น–ลงเขาวัง อีกทั้งยังเอื้อกับการเข้าชมของผู้สูงอายุ หรือผู้พิการที่ต้องพึ่งวีลแชร์ เพราะมีทางลาดสำหรับวีลแชร์ และผู้ที่ไม่ถนัดเดินขึ้นบันไดเพราะอาจจะปวดข้อเข่า
เมื่อลงมาถึงด้านล่าง เพียงแค่เปิดประตูเข้าไป ก็จะได้ไอเย็นสบายๆ จาก ห้องนิทรรศการ กลิ่นความสดใหม่ลอยมาแตะจมูกทันที พร้อมกับประสาทสัมผัสที่จะทำให้เรารู้สึกต้องร้องว้าว !! เพราะความทันสมัย รูปแบบการจัด การนำเสนอ แสง สี รายละเอียด ภาพโบราณที่หาชมยาก รูปแบบการนำเสนอนิทรรศการที่นี่เป็นแบบ interactive เรียนรู้กันได้สนุกสนาน ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมอยู่ในเฟรมแห่งยุคสมัยได้ด้วยค่ะ ความไฮเทคยังมีให้เราสัมผัสและเรียนรู้เรื่องราวส่วนพระองค์ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพในทุกๆ ด้าน อาทิ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ มีวีดีโอแมปปิ้งที่ทำให้เราเห็นภาพสุริยุปราคา ณ ตำบลหว้ากอ ซึ่งพระองค์คำนวนการเกิดเหตุการณ์ทางธรรมชาติในครั้งนี้ได้อย่างแม่นยำ พระปรีชาสามารถ และเรื่องราวแห่งรัชสมัยได้อย่างน่าสนใจมากๆ ค่ะ
การเข้าชมนิทรรศการ ณ พระจอมเกล้าฯ บรมราชานิทัศน์ ไม่มีค่าเข้าชมแต่อย่างใด เพียงแค่ลงทะเบียน ชื่อผู้เข้าเยี่ยมชมให้ครบถ้วน จากนั้น ทาง เจ้าหน้าที่ จะให้ ชิปการ์ด เราจะต้องเก็บรักษาส่วนนี้ให้ดี เพราะจะเป็นใบเบิกทางในการชมนิทรรศการของเรา และก่อนออกจากนิทรรศการ จะต้องคืนให้ เจ้าหน้าที่ ด้วยนะคะ
แม้นิทรรศการที่นี่จะไม่ได้ดูใหญ่โตหรือกว้างขวางมากนัก แต่ต้องบอกเลยว่า ครบเครื่องฉบับจิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ ค่ะ
นอกจากนิทรรศการเรื่องราวส่วนพระองค์แล้ว ถัดจากห้องนี้ยังมีส่วนของห้องฉายภาพยนตร์ ซึ่งบอกเล่าถึงการสร้างพระนครคีรี รวมถึงวัดวาอารามที่เก่าแก่บนเขาวังด้วย และทำให้เราได้รู้จักกลุ่มชาติพันธุ์ที่น่าสนใจและเป็นคนพื้นเมืองเพชรบุรีที่เราควรรู้จัก นั่นคือ กลุ่มลาวโซ่ง ที่มีความเป็นอยู่อันเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง ชมกันเพลิน เรียนรู้กันอย่างสนุกสนาน อาจจะทำให้เวลาครึ่งชั่วโมงไม่เพียงพอต่อการเข้าชมด้วยซ้ำค่ะ
นิทรรศการที่นี่ แม้จะเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ก็อยากจะแนะนำทุกท่านให้ช่วยกัน ปันน้ำใจเป็นค่าน้ำ–ค่าไฟ เพื่อที่ให้นิทรรศการแห่งนี้ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้กันอย่างยาวนาน ทุกน้ำใจของท่านมีส่วนช่วยต่อยอดองค์ความรู้ และช่วยกันเทิดพระเกียรติในพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๔ ทรงมีต่อพสกนิกรไทยทุกคน หรือจะอุดหนุนของที่ระลึกไปฝากเพื่อนๆ ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบค่ะ และอย่าลืมคำขอบคุณแก่ จนท.ที่คอยอำนวยความสะดวก แนะนำ เล่าพระราชประวัติและคอยชี้แนะตลอดการเข้าชมนิทรรศการให้กับเราด้วยนะคะ
พระจอมเกล้าฯ บรมราชานิทัศน์เปิดให้เข้าชม ทุกวันพุธ–อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
กองทัพจึงต้องเดินด้วยท้องเสมอ
ร้านอาหารที่อยากแนะนำให้ทานได้ในครั้งนี้
เป็นร้านข้างทางแต่รสชาติระดับ ๕ ดาว!!!
แนะนำร้านอาหาร ที่หัวหิน เชฟชาร้านข้างทางแต่รสชาติระดับ ๕ ดาว
ฉันและครอบครัวใช้เวลาไปกับการชมนิทรรศการแห่งนี้อยู่นานพอสมควร จนค่อนไปเย็น จึงได้เวลาต้องเดินทางต่อไปยังที่พักของฉันในค่ำคืนนี้ แต่ก่อนจะเข้าที่พัก กองทัพจึงต้องเดินด้วยท้องเสมอ ร้านอาหารที่อยากแนะนำให้ทานได้ในครั้งนี้เป็นร้านข้างทางแต่รสชาติระดับ ๕ ดาว อ่านไม่ผิดแน่นอนค่ะ ระดับ ๕ ดาวจริง เพราะเป็นฝีมือการปรุงอาหารจากเชฟซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานให้กับโรงแรมระดับ ๕ ดาวมาก่อน แต่ขอบอกเลยว่าราคาไม่ได้ ๕ ดาวนะคะ อร่อยและถูก ที่สำคัญอิ่มจนจุกเลยค่ะ ร้านนี้ชื่อว่า เชฟชา ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม เส้นทางล่องใต้ พิกัดง่ายๆ คือ อยู่ข้าง เชอราตัน รีสอร์ทแอนด์สปา หรือ เยื้องๆ กับ Fly Now Outlet ค่ะ
ต้องเรียนท่านผู้อ่านตามตรงเลยค่ะ ก่อนก้าวเท้าเข้ามาในร้านนี้ ฉันคาดหวังเพียงแค่อิ่มท้องเท่านั้นเอง เมนูที่สั่งมาชิมในครั้งนี้ จึงสั่งเพียงแค่ 3 เมนูเท่านั้น นั่นก็คือ สลัดเชฟชา สเต็กปลากระพง และ สเต็กเนื้อโคขุนซอสบาร์บีคิว รสชาติอร่อยมาก ผิดกับที่คาดเอาโดยสิ้นเชิง ที่สำคัญปรุงเร็ว เสิร์ฟไว พนักงานบริการดี ร้านสะอาด ตกแต่งเรียบง่าย มีมุมห้องแอร์ และส่วนที่รับอากาศธรรมชาติด้านนอก ใครที่หิวมากๆ รับรองนั่งเม๊าท์กันยังไม่ทันจบอาหารก็มาถึงแล้ว จานใหญ่ ฟู๊ดดีไซน์เก๋สมกับฝีมือเชฟระดับ ๕ ดาว และรสชาติดี ท่านที่ชอบทานสเต็ก อยากแนะนำให้ลองทานกันค่ะ นอกจากเมนูอาหารฝรั่งแล้ว อาหารจานเดียว เมนูอาหารไทยก็มีให้เลือกหลากหลายนะคะ ราคาไม่แพงค่ะ อาหารจานเดียวเริ่มต้นที่ ๕๐ บาทก็มี หรือจะเลือกทานเป็นกับข้าว ก็มีเช่นกัน รวมไปถึงของหวาน เครื่องดื่มแบบพิเศษๆ ของทางร้าน แต่เสียดายที่ฉันนั้นอิ่มเสียก่อน เลยยังไม่มีโอกาสได้ลองของหวาน แต่เชื่อว่ารสชาติดีไม่แพ้กันค่ะ
ฉันเลือกที่พักที่เชอราตัน รีสอร์ทแอนด์สปา หัวหิน
ซึ่งอยู่ข้างๆร้านอาหารที่แนะนำ เพราะเคยพักที่นี่มาก่อน
หลังจากที่อิ่มหนำสำราญใจกันแล้ว จึงได้เวลาพาบุพการีกลับเข้าที่พักกันก่อน ฉันเลือกที่พักที่ เชอราตัน รีสอร์ทแอนด์สปา หัวหิน ซึ่งอยู่ข้างๆร้านอาหารที่แนะนำ เพราะเคยพักที่นี่มาก่อนและตามใจบุพการีในการท่องเที่ยวครั้งนี้ อีกทั้งรีสอร์ทค่อนข้างเงียบสงบ มีสระว่ายน้ำความยาว ๕๐๐ เมตร ให้ว่ายซ้อมชิงแชมป์โลกกันได้ ที่สำคัญอาหารเช้าของที่นี่ยังดีเลิศ ไม่ว่าจะอาหารไทย อาหารฝรั่ง เป็นมื้อเช้าบุฟเฟต์นานาชาติที่ถูกปากที่สุดอีกที่ที่เคยใช้บริการมาค่ะ
เมนูอาหารเช้า ในแต่ละวัน โรงแรมมีความเอาใจใส่ในการเลือกเมนูไม่ซ้ำกัน มีความหลากหลาย ที่สำคัญ รสชาติดี ถูกปากคนไทยแน่นอนค่ะ ส่วนเครื่องดื่ม กาแฟสด น้ำผลไม้ปั่นคั้นสดๆ ก็มีให้บริการ ผลไม้สดมีให้เลือกตามฤดูกาล ในส่วนของห้องพัก ไม่ต้องบรรยายมาก กว้างขวางสบาย สะอาด แอร์เย็น อุปกรณ์เครืองนอนคุณภาพพร้อม และสำหรับคนรักสุขภาพ ที่นี่ให้บริการห้องฟิตเนสตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มี่เวลาเบิร์นสิ่งที่ทานเข้าไปค่ะ
วันนี้ฉันขอตัวพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปลุยกันต่อ โปรดติดตามตอนหน้ากันนะคะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปให้ชมนั้นเกี่ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรม จิตรกรรมสมัยอยุธยาที่สมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งของประเทศไทย และไม่ลืมที่จะพาทุกท่านไปรู้จักกับหนึ่งในโครงการพระราชดำริแห่งแรกของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ไปแล้ว ก็จะทำให้เราน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และคิดถึงพระองค์มากขึ้นค่ะ ^^
บทความโดย : เอกชฎา ศรีสุวรรณ์
http://www.phranakhonkhiri.com
Sheraton Hua Hin Resort & Spa